แผ่นดินโดยใด (ปกแข็ง)ผู้เขียน:
ชมัยภร แสงกระจ่างสำนักพิมพ์:
คมบางรหัสสินค้า: 9786165107037
หนังสือมือหนึ่งสภาพดี
ราคาปก 299 บาท ลดเหลือ 269 บาท(ราคานี้ยังไม่รวมค่าจัดส่ง)+++ รายละเอียดหนังสือ +++ [mr04]
รวมบทกวี
แผ่นดินโดยใด
รวมบทกวีของ อ.ชมัยภร แสงกระจ่าง
อ.ชมัยภร ในนามปากกา “ชมจันทร์”เคยมีบทกวีรวมเล่ม คือ ใบไม้แห่งนาคร ปี๒๕๑๖มิเหมือนแม้นอันใดเลย ปี ๒๕๓๓ (ได้รับรางวัลรวมบทกวีชมเชยจากคณะกรรมการพัฒนาหนังสือแห่งชาติกระทรวงศึกษาธิการ) หนูน้อยตัวหนังสือ (ร้อยกรองสำหรับเด็ก)ปี ๒๕๓๖และอรุณในราตรี ปี ๒๕๔๑
...
แผ่นดินโดยใด เป็นรวมบทกวีเล่มล่าสุด ในปี๒๕๖๐ โดยใช้นามจริง เป็นเสมือนบทบันทึกความเป็นไปแห่งสังคม วัฒนธรรมการเมือง และยังบันทึกวาระความสำคัญต่างๆ ที่เกิดขึ้นในยุคสมัยของกวีภาพที่สะท้านสะเทือนใจที่สุด เป็นวาระแห่งความสูญเสียอันหาใดเปรียบได้ซึ่งกวีได้สะท้อนออกมาเป็นร้อยกรองที่เศร้าสะเทือนอารมณ์อย่างที่สุดฉายภาพของยุคสมัยแห่งรัชกาล ผ่านสายตาของกวีตั้งแต่วัยเยาว์จนถึงความสูญเสียที่ยังความโศกเศร้ามาสู่แผ่นดิน
...
แผ่นดินโดยใดจะทำให้ผู้อ่านได้รับรู้ถึงความสะเทือนใจจากเหตุการณ์ต่างๆ ในสังคมที่กวีถ่ายทอดออกมาพร้อมตั้งคำถาม และมีความหวังเป็นแสงน้อยๆด้วยวาดหวังถึงความร่วมมือร่วมใจของคนในแผ่นดิน
...
แผ่นดินโดยใดนับเป็นบทกวีบันทึกความรู้สึก ที่ควรค่าอย่างยิ่งในการอ่านเพื่อซึมซาบอารมณ์ความรู้สึกของแผ่นดิน อันมีมวลประชาชนเรียงร้อยความต่างความเหมือน ความรัก และความศรัทธา เป็นท่วงทำนองของแผ่นดิน
---------------------------------------------------
คำนำจากอ. ชมัยภร แสงกระจ่าง
วาระของ “แผ่นดินโดยใด”
เมื่อสมัยเด็ก ๆ เมื่อฉันอายุได้สิบเอ็ดสิบสองขวบ พี่สาวสิบสี่สิบห้า พอตกค่ำ พ่อเมาได้ที่แล้วก็จะเริ่มท่องกลอนสุภาษิตสอนหญิงให้ลูกสาวสองคนฟังโดยเริ่มจากบทโน้นบทนี้ แล้วแต่ว่าเรากำลังทำท่าอะไรและสมควรถูกดุด้วยบทไหน แต่ที่ฟังเป็นประจำแทบทุกคืนก็คือ
เป็นสาวแส้แร่รวยสวยสะอาด
ก็หมายมาดเหมือนมณีอันมีค่า
แม้นแตกร้าวรานร่อยถอยราคา
จะพลอยพาหอมหายจากกายนาง
แต่บางคืนพ่อครึ้มอกครึ้มใจก็จะท่องโคลง
ครืนครืนใช่ฟ้าร้อง เรียมครวญ
หึ่งหึ่งใช่ลมหวน พี่ไห้
ฝนตกใช่ฝนนวล พี่ทอด ใจนา
ร้อนใช่ร้อนไฟไหม้ พี่ร้อนกลกาม
และโคลงบทอื่น ๆ อีกมากมายแล้วแต่ว่าพ่อท่องจำบทไหนได้
บรรยากาศการท่องโคลงกลอนของพ่อฝังเข้าไปในใจของฉันโดยไม่รู้ตัว ฉันเริ่มรักคำและรักงานกวีนิพนธ์ รักคำสวย ๆ และชอบเขียนเรื่อง เมื่อมาเรียนอักษรศาสตร์ จุฬาฯ ก็ยิ่งมีโอกาสได้สัมผัสกับคำสวย ความสวย ภาพสวยมากขึ้นไปอีก ฉันชอบถึงขนาดเขียนกลอนทุกวันวันละชิ้นขนาดยาว ๆ สะท้อนอารมณ์ตามประสาเด็กสาว ทำให้การเขียนกลอนกลายเป็นสิ่งที่ทำได้ไม่ยาก เมื่ออายุมากขึ้น ได้มาเป็นนักเขียนนวนิยาย และเขียนนวนิยายไปหลายเรื่องแล้ว วันหนึ่ง ฉันจึงเขียนนวนิยายเป็น “กลอน” ในเรื่อง “ขวัญสงฆ์” และยังทำต่อมาอีกในเล่ม “ตลาดดอกไม้บาน” ทำอย่างสนุกและสบายอารมณ์ มีความพอใจและปลื้มเปรมที่ได้ทำด้วย แต่เนื่องจากฉันเขียนกลอนชุดนี้ในโครงสร้างของนวนิยาย คือวางวรรคต่อกันไปเพื่อลวงตานักอ่านให้หยิบอ่าน หลายคนจึงไม่รู้ว่าฉันเขียนเป็นกลอน ได้แต่บอกว่า คล้องจองกันดีมีสัมผัสด้วย
เมื่อพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯครองราชย์ครบ ๖๐ ปี ฉันก็ได้เขียน “ถวายจงรักด้วยอักษรา”ตอนแรก ต่อมาเมื่อพระองค์เสด็จสวรรคต ฉันก็เขียนไปร้องไห้ไปในตอนต่อมาจนจบ โดยใช้รูปแบบเดียวกันกับขวัญสงฆ์ แต่ในการรวมเล่มครั้งนี้ ฉันนับเป็นการรวมบทกวี จึงปรับรูปแบบเป็น “กลอน”ตามปกติ
บทกวีเล่มนี้มีชื่อว่า “แผ่นดินโดยใด”ตั้งโดยดลสิทธิ์ บางคมบาง คนสำคัญเคียงข้าง เป็นการสะท้อนเรื่องราวที่เกิดขึ้นในแผ่นดินนี้ที่ผ่านมาจากหัวจิตหัวใจของฉัน อันสะท้านสะเทือนมาจากสิ่งต่าง ๆรอบตัว รวมทั้งบ้านทั้งเมือง เป็นความสะเทือนใจทุกรูปแบบ ภาคที่ ๑ สะเทือนใจเพราะเสด็จสวรรคต ภาคที่ ๒ สะเทือนใจเพราะเป็นตัวอักษรที่รักเหลือคณา ภาคที่ ๓ สะเทือนใจเพราะเหตุการณ์บ้านเมือง และภาคที่ ๔ สะเทือนใจ เพราะการจากไปของบุคคลสำคัญในวงการหนังสือ เป็นการรวมเล่มบทกวีเป็นเล่มที่ ๓ ต่อจาก “มิเหมือนแม้นอันใดเลย“ และ “อรุณในราตรี” เป็นการรวมผลงานที่มิได้ทำได้บ่อยนัก แต่ก็เป็นงานประเภทที่ฉันรักที่สุด แม้จะสวนกระแสออกมาในวาระที่โลกของสื่อสิ่งพิมพ์กำลังสั่นคลอน แต่ฉันก็ยังรักและยินดีที่จะให้เกิดการปรากฏตัวของหนังสือเล่มนี้ และขออุทิศคุณงามความดีของหนังสือเล่มนี้แด่พ่อ นายประชุม วิทูธีรศานต์ ผู้เป็นแรงบันดาลใจแม้จนวันนี้
ชมัยภร แสงกระจ่าง
๓๐ กรกฎาคม ๒๕๖๐
(---------------------------------------------------)
คำตาม จาก ดร.สุวรรณา เกรียงไกรเพ็ชร์
หมายใจ ในอักษร
ข้าพเจ้าเขียนคำนำไม่ค่อยเป็น เว้นแต่จะเขียนในฐานะผู้รับผิดชอบในนามองค์กรหรือบรรณาธิการ นาน ๆ ครั้ง เมื่อคุณชมัยภร บางคมบาง บอกให้เขียนคำนำหนังสือรวมบทกวี แผ่นดินโดยใด ข้าพเจ้าจึงอึกอักอัดอั้น
เป็นอันมาก จะไม่เขียนรึ เธอก็เป็นที่สนิทสนมรักใคร่มาเนิ่นนาน ครั้นคิดจะเขียน ก็กินไม่ได้นอนไม่หลับมีอาการเหมือนกรดไหลย้อนตั้งแต่เริ่มคิดเป็นต้นมา
ในที่สุด จึงตัดสินใจ ขออนุญาตเขียนเป็น “คำตาม” ตามถนัดของข้าพเจ้า ผู้เดินตามหลังนักเขียนนักกลอนมาโดยตลอด ในฐานะที่เคยเขียนบทวิจารณ์ บทวิเคราะห์ บทสังเคราะห์ ซึ่งล้วนแต่ต้องเขียนตามหลังงานเขียนทั้งสิ้น
ขอยืนยันว่าไม่เคยเขียนก่อนได้อ่านงานเขียนเลยแม้แต่ครั้งเดียว ส่วนชื่อของข้อเขียนนี้ ใครจะเข้าใจหรือไม่เข้าใจอย่างใด ข้าพเจ้าก็ไม่ว่ากระไรทั้งสิ้น
แผ่นดินโดยใด เป็นหนังสือที่มีชื่อเก๋ที่สุด ตรงเนื้อหาที่สุด ตั้งแต่ได้อ่านหนังสือของคุณชมัยภรมาหลายสิบเล่ม จึงขอชื่นชมผู้ตั้งชื่อที่นั่ง (ชันเข่า) อยู่ข้าง ๆ คุณชมัยภรมาหลายสิบปี หลังจากที่เคยปรารภว่า ชื่อที่ตั้งในครั้งแรก ๆ นั้นออกจะ “เชยฉ่ำ” แต่ในความเป็นจริง งานเขียนของคุณชมัยภรส่วนมากก็ออกแนวเชยนิด ๆ ฉ่ำหน่อย ๆ มาโดยตลอด ซึ่งข้าพเจ้าเคยคิดอยากจะเรียกให้ดูเป็นวิชาการว่า สัจนิยมโรแมนติก แต่เลิกคิดไปเมื่อเธอได้รับยกย่องเป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์
อย่าเพิ่งโกรธกัน... โดยความจริงใจ ข้าพเจ้าเห็นว่างานเขียนของเธอไม่ว่าจะเป็นบทกวี เรื่องสั้น นวนิยาย มีลักษณะอนุรักษ์นิยมฝังลึกแบบคนอักษรฯ คนพุทธและคนไทย ทั้งในด้านรูปแบบ สำนวนโวหาร จนถึงแนวคิด ซึ่งน่าจะเป็นที่มาของ “เชยนิด ๆ ฉ่ำหน่อย ๆ” บทกวีส่วนมากหรืออาจเกือบทั้งหมดของเธอเป็นกลอนสุภาพ ซึ่งคนไทยคุ้นหูกับจังหวะและสำเนียงถ้อยคำที่ใช้ก็เป็นคำสามัญธรรมดาที่คนทั่วไปเข้าใจได้ แต่ไม่มีผิดพลาด ตามธรรมชาติคนอักษรฯ เอกภาษาไทย ถึงจะสอดแทรกคำใหม่ ๆ ตามสมัยนิยมก็ยังระแวงระวัง ส่วนแนวคิดแบบพุทธ ๆ ไทย ๆ นั้นเห็นได้เสมอในงานทุกชิ้น แม้จะไม่ค่อยนิมนต์ “หลวงพ่อ” มาเป็นตัวละครในช่วงหลัง ๆ แล้วก็ตาม
บทกวีใน แผ่นดินโดยใด ทั้ง ๔ ภาคนี้ ข้าพเจ้าได้เคยอ่านและเคยฟังมาบ้างแล้ว ในพื้นที่และวาระต่าง ๆ
แต่ละบท แต่ละครั้ง ก็ได้ซึมซับความสะเทือนใจที่แสดงออกด้วยถ้อยคำธรรมดา ๆ ที่ผูกร้อยทั้งรสถ้อย รสความและรสอารมณ์ของผู้เขียน ได้รับทั้งความหฤหรรษ์ เจริญใจ และประเทืองปัญญา ครบถ้วนตามคำอธิบายของศาสตราจารย์เกียรติคุณดร. เจตนา นาควัชระ ที่กล่าวถึงงานเขียนที่ดีมีคุณภาพ ข้าพเจ้าเห็นว่า แผ่นดินโดยใด ยังรักษาความ “เชยนิด ๆ ฉ่ำหน่อย ๆ” ในแบบฉบับของ ชมัยภร แสงกระจ่าง ไว้อย่างคงเส้นคงวา แต่ลักษณะที่ฝังลึกนี้ได้ปรับปรนไปตามประสบการณ์ของผู้ที่ผ่านความเปลี่ยนแปลงสถานะของตนในบริบทสังคมและโลกมายาวนาน จนปรากฏรูปที่กลมกลืนกันระหว่างรากเหง้าและเรือนยอด
...ถ้าเธอเป็นต้นไม้... ต้นไม้ที่มีรากเหง้ามั่นคงแผ่ขยายอยู่ใต้ผืนดินเท่านั้น ที่จะสร้างเรือนยอดแผ่กว้างให้ร่มเงาอันรื่นรมย์ได้ส่วนผู้ที่รักต้นไม้ เมื่อเห็นเรือนยอดก็ย่อมรู้ลึกถึงรากภายใต้ได้เช่นกัน
เมื่ออ่านหนังสือเล่มนี้แล้ว ข้าพเจ้าเชื่อว่า ผู้อ่านจะตระหนักได้ว่า แผ่นดิน... โดยใด และอาจเข้าใจได้ต่อไปว่า กวี... โดยแผ่นดิน นั้นเป็นฉันใด
สุวรรณา เกรียงไกรเพ็ชร์
๑ กันยายน ๒๕๖๐