โซไรดา นางพญาทะเลทราย
Zoraida: A Romance of the Harem and the Great Sahara
ผู้เขียน: วิลเลียม ที. เลอเคอ ( William Tufnell Le Queux)
ผู้แปล: เสฐียรโกเศศ
สำนักพิมพ์: ศยาม
หนังสือมือหนึ่งสภาพดี ปกและสันอาจเลอะ/มอม/ช้ำเล็กน้อย (เนื่องจากเป็นหนังสือที่พิมพ์มานานค่ะ)
ราคาปกติ 360 บาท ลดเหลือ 324บาท
(ราคานี้ยังไม่รวมค่าจัดส่ง)
+++ รายละเอียดหนังสือ +++ [mr04]
โซไรดาเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในทะเลทรายซาฮารา ตัวละครสำคัญเป็นนักเผชิญโชคชาวอังกฤษ การใช้ตัวละครชาวอังกฤษและฉากในทวีปแอฟริกาใต้น่าจะเป็นเค้าเงื่อนที่ทำให้เชื่อกันว่าเป็นผลงานของเซอร์ เฮนรี ไรเดอร์ แฮกการ์ด
ซิซิล ฮอลโกม นักเผชิญโชคชาวอังกฤษขอเดินทางร่วมกับกองคาราวานของพ่อค้าแขกเพื่อไปยังจังหวัดตูเอนโอเอซิส ระหว่างทางพ่อค้าแขกบอกซิซิลว่ามีลางร้าย เพราะอูฐตัวหนึ่งเหยียบน้ำลายที่เขาบ้วนไว้ ให้ระวังว่าในภายหน้าเขาจะพบสตรีรูปงามนางหนึ่งซึ่งจะนำโชคร้ายถึงแก่ชีวิตมาให้ แม้ว่าซิซิลจะไม่เชื่อ แต่ก็หวั่นใจกับคำทำนายนี้ไม่น้อย
เมื่อเดินทางต่อมาไม่นาน กองคาราวานถูกโจรปล้น โจรร้ายกลุ่มนี้เรียกว่ากลุ่มเอนนิตรา มีฮายีอับซาลำเป็นหัวหน้า ชาวกองคาราวานส่วนใหญ่ถูกโจรฆ่าตาย ที่เหลือถูกจับตัวเป็นเชลยรวมทั้งซิซิล เขาถูกทรมานด้วยการจะให้งูกัดตาย แต่มีผู้หญิงคนหนึ่งมาช่วยชีวิต นางจัดหาม้าและเสบียงพร้อมบอกเส้นทางให้เขาหนีไป ก่อนจากกัน ผู้หญิงคนนี้ไม่ยอมเปิดผ้าคลุมหน้าให้หน้าใบหน้าที่แท้จริง แต่บอกว่าชื่อโซไรดา และเป็นบุตรีของพระอาทิตย์ นางมอบแหวนให้และบอกว่านางจะไปไหว้พระที่เมืองอัลยีเรียในเวลาอีกหลายเดือนข้างหน้า ระหว่างที่ซิซิลพักม้ากินอาหารกลางทาง เขาดูแหวนและจดหมายที่เธอเขียนถึง ในจดหมายเธอบอกว่าเธอจะเรียกเขาว่า อามินและหวังว่าภายหน้าเขาจะช่วยเธอให้รอดจากความทุกข์ไปได้
ซิซิลเดินทางได้สามวันก็พบกอบทหาร เขาได้รับความช่วยเหลือและได้เป็นเพื่อนกับนายทหารชาวฝรั่งเศสผู้หนึ่ง ชื่อออกเตฟอูเซน ผู้หนีจากประเทศบ้านเกิด เพราะถูกนายดีลาเงนแตร์ (ในบทหลังๆ พิมพ์ชื่อว่า เดอลาเงนแตร์) กล่าวหาว่าฆ่าคนตาย แต่ความจริงเขาถูกใส่ร้าย เพราะมีหลักฐานเป็นจดหมายของผู้ตายเขียนมาถึงเขาก่อนตายว่า ได้ล่วงรู้ความลับของนายดีลาเงาแตร์ว่าเป็นฆาตกร และนายดีลาเงนแตร์ขู่จะทำร้ายเขา หากเขาเปิดเผยความจริง ขณะกำลังคุยกันอยู่นั้น กองทหารถูกลุ่มโจรเอนนิตราโจมตี แต่กองทหารสามารถสังหารโจรและขับไล่ไปได้ ซิซิลขอเดินทางตามทหารม้าใช้ซึ่งจะไปรายงานข่าวยังค่ายทหารที่เมืองตักกาต เพื่อหาทางเดินทางต่อไปยังเมืองอัลยีเรียเพราะตั้งใจจะไปพบนางโซไรดาให้ได้ เมื่ออยู่ที่ค่ายทหาร ซิซิลทราบเรื่องราวของโซไรดาว่านางเป็นผู้หญิงที่สวยที่สุด มีความรู้ดั่งเทพ พวกโจรให้ความเคารพมาก นับถือว่าเป็นผู้วิเศษ นางมีฉายาว่าพญาแห่งทะเลทราย
จากค่ายทหาร ซิซิลเดินทางต่อไปยังเมืองอัลยีเรีย เป็นเมืองโบราณ มีฉายาว่า สุริยนคร ย่านเมืองเก่าเป็นที่อยู่ของชนพื้นเมืองชาวอาหรับ ย่านเมืองใหม่เป็นที่อยู่ชาวฝรั่งเศสเจ้าอาณานิคม ในระหว่างที่รอคอยพบนางโซไรดา วันหนึ่ง นางส่งคนมานัดหมายให้ไปพบ คราวนี้นางเปิดเผยใบหน้าให้เห็นว่าเป็นผู้หญิงที่สวยงามแต่งตัวด้วยเครื่องประดับมีค่า และมีความเป็นอยู่หรูหราราวหญิงสูงศักดิ์ ซิซิลสารภาพรัก นางรับรักเขาและขอแหวนของเขาไว้ แต่บอกว่าไม่อาจร่วมชีวิตด้วยได้เพราะนางอยู่ในระหว่างความเป็นความตายอันบอกไม่ได้ นางพาเขาไปยังสถานที่แห่งหนึ่ง เพื่อทำพิธีลี้ลับ นางฉีดยาพิษให้เขาอยู่ในภวังค์เคลิบเคลิ้ม แล้วปลุกวิญญาณคนตายซึ่งนำหีบไม้รูปพระจันทร์ครึ่งซีกซึ่งบรรจุแผ่นเหล็กขึ้นสนิมรูปจันท์เสี้ยวมาให้นางโซไรดา โซไรดานำซิซิลมาทำพิธีเพื่อให้ได้รับความรู้ในวิชาลี้ลับของรัศมีจันทร์ เขาจะได้มีอำนาจทำการสิ่งหนึ่งซึ่งนำความสุขมาให้คนทั้งสอง แต่เนื่องจากซิซิลเป็นคนนอกศาสนาจึงไม่อาจรู้วิชาลี้ลับนี้ได้ กระนั้นซิซิลก็อาสาทำทุกอย่างเพื่อให้ได้แต่งงานกับโซไรดา นางจึงของเขาปลอมตัวเป็นคนอิสลาม และนำแผ่นรัศมีจันทร์เดินทางไปยังที่ซึ่งน่ากลัวอันตรายอย่างยิ่ง เขาจะต้องนำแผ่นรัศมีจันทร์และจดหมายของนางไปให้อิหม่านที่สุเหร่าใหญ่แห่งเมืองอากาเดส ซึ่งเปล่าเปลี่ยวกันดารและมีโจรชุกชุม ไม่เคยมีชาวยุโรปคนใดเดินทางไปถึงมาก่อน นางบอกว่าที่นั่งเขาจะได้รู้วิชา ‘มหาลึกลับ’ อันจะทำให้เขาร่ำรวยเป็นมหาเศรษฐีจนไม่มีความโลภอีกต่อไป หากทำได้สำเร็จนางก็จะพ้นกรรม.....ฯลฯ
