ดอนกิโฆเต้ แห่งลามันช่า ขุนนางต่ำศักดิ์นักฝัน (El ingenioso hidalgo don Quixote de la) (ปกแข็ง) (เหลือแต่ปกเหลือง)

ดอนกิโฆเต้ แห่งลามันช่า ขุนนางต่ำศักดิ์นักฝัน (El ingenioso hidalgo don Quixote de la) (ปกแข็ง) (เหลือแต่ปกเหลือง)
ดอนกิโฆเต้ แห่งลามันช่า ขุนนางต่ำศักดิ์นักฝัน (El ingenioso hidalgo don Quixote de la) (ปกแข็ง) (เหลือแต่ปกเหลือง)ดอนกิโฆเต้ แห่งลามันช่า ขุนนางต่ำศักดิ์นักฝัน (El ingenioso hidalgo don Quixote de la) (ปกแข็ง) (เหลือแต่ปกเหลือง)ดอนกิโฆเต้ แห่งลามันช่า ขุนนางต่ำศักดิ์นักฝัน (El ingenioso hidalgo don Quixote de la) (ปกแข็ง) (เหลือแต่ปกเหลือง)ดอนกิโฆเต้ แห่งลามันช่า ขุนนางต่ำศักดิ์นักฝัน (El ingenioso hidalgo don Quixote de la) (ปกแข็ง) (เหลือแต่ปกเหลือง)ดอนกิโฆเต้ แห่งลามันช่า ขุนนางต่ำศักดิ์นักฝัน (El ingenioso hidalgo don Quixote de la) (ปกแข็ง) (เหลือแต่ปกเหลือง)ดอนกิโฆเต้ แห่งลามันช่า ขุนนางต่ำศักดิ์นักฝัน (El ingenioso hidalgo don Quixote de la) (ปกแข็ง) (เหลือแต่ปกเหลือง)
หมวดหมู่ นักเขียนระดับตำนาน/รางวัลโนเบล
ราคาปกติ 969.00 บาท
ลดเหลือ 872.00 บาท
สภาพ สินค้าใหม่
เพิ่มเติม มีจุดเหลืองที่สัน และมีรอยช้ำที่สันปก (เนื่องจากเป็นหนังสือที่พิมพ์มานาน)
ลงสินค้า 18 มี.ค. 2559
อัพเดทล่าสุด 3 มี.ค. 2563
ขออภัย สินค้าหมด
บัตรประชาชน
บุ๊คแบ๊งค์
คุ้มครองโดย LnwPay

ดอนกิโฆเต้ แห่งลามันช่า ขุนนางต่ำศักดิ์นักฝัน
El ingenioso hidalgo don Quixote de la

ผลงานของ มิเกล์ เด เซร์บันเตส ซาเบดร้า (MIGUEL DE CERVANTES SAAVEDRA)
แปลโดย สว่างวัน ไตรเจริญวิวัฒน์
สำนักพิมพ์ ผีเสื้อ
หนังสือมือหนึ่ง ปกแข็งเล่มใหญ่
อาจมีจุดเหลืองที่สัน และมีรอยช้ำที่สันปก (เนื่องจากเป็นหนังสือที่พิมพ์มานาน)

****เล่มนี้ไม่มีปกแถมให้นะครับ เนื่องจากไม่มีปกสำเร็จขนาดที่ใหญ่พอจะใส่เล่มนี้ได้ครับ ***

ราคาปกติ 969 บาท ลดเหลือ 872 บาท


+++ รายละเอียดหนังสือ +++  [mr06]



** 1 ใน 1001 หนังสือที่ห้ามพลาดในชาตินี้
(1001 Books You Must Read Before You Die)

Don Quixote วรรณกรรมสำคัญของโลกฉบับภาษาสเปน ค.ศ.1605 เป็นฉบับภาษาไทย ค.ศ.2005 เป็นการแปลเป็นภาษาต่างประเทศ ภาษาที่ 85

ดอนกิโฆเต้ฯ เป็นหนังสือขายดีตั้งแต่ดีพิมพ์ครั้งแรกเป็นต้นมา นอกจากนั้นยังเป็นหนังสือที่พิมพ์และแปลมากเป็นที่สองในโลก จะเป็นรองก็แต่พระคัมภีร์ไบเบิ้ล เท่านั้น ผู้คนยกย่องว่า นี่คือนวนิยายเล่มแรกของโลก และเป็นนวนิยายดีที่สุดที่โลกนี้มีมา

ใน ค.ศ.2002 สถาบันโนเบลจัดสำรวจความเห็นจากนักเขียนดัง 100 คน จากประเทศต่างๆ 54 ประเทศ ให้เลือกนวนิยายที่คิดว่าดีที่สุดในโลกวรรณกรรม อันดับหนึ่งคือ ดอนกิโฆเต้ฯ ซึ่งมีผู้คัดเลือกมากกว่าหนังสือเล่มอื่นใดถึง 50 %

หนังสือเรื่องนี้เขียนขึ้นเมื่อสี่ร้อยปีมาแล้วก็จริง แต่เป็นเรื่องบันเทิงที่อ่านแล้วทำให้หัวใจเป็นสุข อยากให้คุณได้รู้จักตัวละครในเรื่อง ด้วยพวกเขาต่างเป็นตัวละครที่ตรึงใจ เพิ่งจะได้แปลเป็นภาษาไทยก็ตอนนี้

คุณจะหักห้ามใจ ไม่อยากรู้เรื่องการผจญภัยของดอนกิโฆเต้ฯ บุรุษนักฝันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนี่งของโลก หนังสือที่กล่าวขานกันมานาน 400 ปี สนุกสุดยอด ละหรือ .....

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ความฝันอันรื่นรมย์

ดอนกิโฆเต้ แห่งลามันช่า ขุนนางต่ำศักดิ์นักฝัน พิมพ์ครั้งแรกที่สเปนในปี ค.ศ. ๑๖๐๕ นับเป็นเรื่องน่าทึ่งที่นิยายอายุ ๔๐๐ ปีจะมีผู้คนอ่านจวบจนทุกวันนี้ ไม่เพียงเท่านั้น หนังสือเรื่องนี้ยังได้รับคำยกย่องว่าเป็นนิยายดีที่สุดที่โลกนี้เคยมีมา บ้างกล่าวว่า ดอนกิโฆเต้ คือนิยายเรื่องแรกของโลก

เราคงเคยได้ยินถ้อยคำสรรเสริญทำนองนี้มานับไม่ถ้วน ชื่อเสียงเหล่านี้มีส่วนสถาปนา ดอนกิโฆเต้ ไปอยู่บนหิ้ง ยิ่งคำชมมาจากนักปราชญ์เก่งกาจเท่าใด ยิ่งน่าสงสัยว่าจะอ่านรู้เรื่องไหม จะอ่านยากหรือเปล่า จะเป็นหนังสือเฉพาะคนฉลาด ๆ เข้าใจหรือไม่หนอ

เมื่อผนวกกับความหนาด้วยแล้ว ยิ่งส่งเสริมให้ผู้คนมีหนังสือเล่มนี้ไว้ประจำบ้าน ประดับชั้นหนังสือ ตั้งใจว่าจะอ่านสักวันหนึ่ง สักวันที่ว่านั้นมาไม่ถึงสักที

หนึ่งในผู้คนเช่นนั้นคือคนอ่านคนนี้

หากเมื่อเปิด ดอนกิโฆเต้ อ่านเพียงไม่นาน คนอ่านเกิดความอัศจรรย์ใจยิ่ง เป็นไปไฉนหนอ จึงไม่เคยมีใครบอกมาก่อนเลยว่านี่เป็นเรื่องอ่านสนุกเพลิดเพลินถึงเพียงนี้ เป็นเรื่องตลกฮากลิ้งแสนรื่นเริง ตัวละครมีเสน่ห์ผูกใจ เป็นนิยายที่น่าหลงรัก

ความสนุกและอารมณ์ขันนั้นเริ่มต้นตั้งแต่อารัมภบทของเรื่อง ซึ่งเป็นบทนำแหวกแนวกว่าใคร ๆ ผู้เขียนบรรยายว่ากลุ้มใจไม่รู้จะเขียนบทนำอย่างไร ด้วยไม่มีความหรูอลังการให้อวด เช่นไม่มีบทร้อยกรองหรือบทสรรเสริญเริ่มเรื่องจากผู้มีชื่อเสียง ปราศจากหมายเหตุและบทอ้างอิง ขาดโวหารของนักปราชญ์คนดัง อันจะส่งอานิสงส์ให้ผู้เขียนหนังสือดูฉลาดรอบรู้

มิตรของผู้เขียนช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ให้ โดยบอกว่าเป็นปัญหาเด็ก ๆ อยากชวนไปติดตามว่าเขาแก้ปัญหาอย่างไร เพราะชาญฉลาดแสบสันต์ยิ่ง ล้อเลียนการเขียนหนังสือได้คมคายและตลกมาก

ดอนกิโฆเต้ มีด้วยกัน ๒ ภาค โดยภาค ๒ ตีพิมพ์หลังภาคแรก ๑๐ ปี ฉบับแปลไทยนี้แปลจากภาคแรก

เรื่องเริ่มจากการแนะนำตัวขุนนางต่ำศักดิ์ผู้พำนักในแคว้นลามันช่า เขาอายุ ๕๐ ปีเศษ ผอมแห้ง รักการอ่านนิยายอัศวินเป็นชีวิตจิตใจ อ่านจากเช้ายันค่ำและค่ำยันรุ่ง เฝ้าหมกมุ่นคลั่งไคล้จนถึงแก่เสียสติ

เพียงหน้า ๒ ตัวละครเอกของเราก็บ้าไปเสียแล้ว

ขุนนางเสียจริตผู้นี้ตกลงใจจะเป็นอัศวินพเนจรดังในนิยาย เที่ยวออกเดินทางพร้อมม้าคู่ใจไปสร้างวีรกรรม ช่วยเหลือคนตกทุกข์ได้ยาก ปราบความอยุติธรรมทั่วทุกแคว้นแห่งหนโดยไม่หวั่นภยันตรายใด

คิดดังนั้นแล้ว ขุนนางรีบตระเตรียมอาวุธ สร้างหมวกเกราะจากกระดาษแข็ง ใช้เวลาตั้งชื่อม้าหย็องกรอด ๔ วัน ได้นามไพเราะเปี่ยมความหมายว่า โรสินันเต้ หรือ “ม้าที่เคยทุรลักษณ์” ใช้เวลา ๘ วันตั้งชื่อให้ตนเองใหม่ว่า ดอนกิโฆเต้ แห่งลามันช่า

สิ่งสำคัญขาดไม่ได้อีกประการของอัศวินคือนางในดวงใจ เพื่อเอาไว้พร่ำเพ้อละเมอถึง เขาตั้งสมญาหญิงงามในดวงใจเอาไว้แสนเสนาะว่า ดุลสิเนอา แห่งโตโบโซ่ (มาจาก ดุลเซ่ แปลว่าหวาน)

หนังสือเรื่องนี้คือการผจญภัยของอัศวินผู้นี้

"ท่านผู้อ่านพึงทราบว่า ขุนนางต่ำศักดิ์ผู้ที่กล่าวข้างต้น
ใช้เวลายามว่าง อันหมายถึงเกือบทั้งปี ทุ่มเท
หมกมุ่นอ่านแต่นิยายอัศวินด้วยคลั่งไคล้ใหลหลง"

ดอนกิโฆเต้ มีอัศวินสำรองนาม ซานโช่ ปันซ่า ชาวนาพุงพลุ้ยผู้ยอมติดตามไปด้วย เพราะเชื่อคำสัญญาของดอนกิโฆเต้ที่จะให้เป็นเจ้าปกครองดินแดนมีน้ำล้อมรอบ (อัศวินของเราบอกว่าการได้ครอบครองดินแดนนั้น “ง่ายดายราวปัดฝุ่นออกจากร่าง”)

ซานโช่เป็นตัวละครมีเสน่ห์มาก อ่านแล้วหลงรักเขาเต็มหัวใจ ซานโช่เป็นคนตรงไปตรงมา หนังสือบรรยายว่าเขา “ซื่อเซ่อ” แต่อ่านไปแล้วจะเห็นว่าคารมคมคายเขาไม่เบา ซานโช่ช่างประชดแดกดัน เขาเป็นสีสันสำคัญของเรื่องที่นำอารมณ์ขันมาให้ ยามซานโช่ปรากฏตัว หน้ากระดาษดูจะสดใสขึ้นมา และเมื่อเขาไม่อยู่นาน ๆ คนอ่านจะคิดถึง

บทสนทนาของซานโช่และดอนกิโฆเต้เป็นเสน่ห์สำคัญของหนังสือ ด้วยมีชีวิตชีวามาก บทตอนเหล่านี้บ้างเป็นการคุยกันธรรมดา บ้างเป็นการทักท้วง ถกเถียง แต่อ่านเพลิดเพลินสนุกสนานอย่างยิ่ง ยามตัวละครทั้งสองอยู่ด้วยกัน ทุกสิ่งทุกอย่างดูจะหายใจ มีเลือดเนื้อ มีชีวิตเคลื่อนไหว มีพลัง

ลองไปฟังวาจาของซานโช่ เมื่อดอนกิโฆเต้ฝากสาส์นรักให้ซานโช่นำไปมอบแก่นางในดวงใจ แล้วให้นำคำตอบกลับมา ซานโช่กล่าวว่า

"ข้ารับรองว่านายหญิงดุลสิเนอาเป็นได้เห็นดีแน่ ถ้านางไม่พูดดั่งที่ควรพูดไซร้ ข้าสาบานต่อพระผู้เป็นเจ้าหนักแน่นเทียวว่า ฝ่ามือแลแข้งขาจะรีดเค้นคำตอบอันเหมาะสมออกมา ด้วยว่าทำไม่ได้ดอกที่จะปล่อยให้ให้อัศวินพเนจรชื่อก้องเช่นนายท่านกลายเป็นฅนบ้าด้วยไม่มีเหตุอันควร เพียงเพื่อ นัง---นายหญิงดุลสิเนอา อย่าให้ข้าต้องพูดคำนั้นออกมาจะดีกว่า ด้วยคงจะหยาบคายแลทุกสิ่งคงพังพินาศ เรื่องเช่นนี้ข้าเก่งอยู่ไม่น้อย นางยังไม่รู้จักข้าดี ถ้ารู้จักไซร้ เชื่อเถิด นางไม่กล้าหือแน่แท้"

ลองไปฟังวาจาของดอนกิโฆเต้บ้าง เขาฉลาดรอบรู้ พูดจาด้วยภาษานิยายอัศวินอันไพเราะหรูหรายิ่ง ชนิดชาวบ้านฟังแล้วอ้าปากค้างเพราะไม่รู้เรื่อง ดอนกิโฆเต้ยึดถือคุณธรรมสูงส่งนัก ถ้อยความของเขาหลายตอนซาบซึ้งตรึงตราอย่างน่าสะเทือนใจ เช่นเมื่อดอนกิโฆเต้ปลอบซานโช่ที่ทดท้อโกรธแค้นชะตากรรมจนคิดเดินทางกลับบ้าน

"ซานโช่ฅนดี เจ้าจงขึ้นหลังฬาเถิด แลขี่ฬาตามข้ามา ด้วยว่าพระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงสร้างสรรพสิ่งย่อมไม่ทรงทอดทิ้งเราดอก ยิ่งจำเพาะเมื่อเราถวายตัวเป็นข้ารับใช้พระองค์ พระองค์ยังมิเคยทอดทิ้งแม้แมลงวันในอากาศ หนอนในพื้นดิน ลูกอ๊อดในธารน้ำ ด้วยทรงเปี่ยมพระเมตตาธิคุณหาที่สุดมิได้ ทรงประทานแสงแดดแก่มนุษย์ทุกผู้ ทั้งดีทั้งเลวเสมอหน้า ทรงบันดาลน้ำฝนชุ่มฉ่ำเย็นแก่ผู้ทรงธรรมแลผู้เลวทรามดุจเดียวกัน"

ฟังแล้วใจอ่อนบ้างหรือไม่ ส่วนซานโช่นั้นบอกว่า “นายท่านเหมาะจะเป็นนักเทศน์ยิ่งกว่าอัศวินพเนจรนัก”

ความสัมพันธ์ของตัวละครทั้งคู่น่าประทับใจมาก นับเป็นคู่หูนายบ่าวที่น่าจดจำที่สุดในโลกวรรณกรรม ทั้งคู่ต่างเรียนรู้ซึ่งกันและกัน แม้โกรธเคืองสักกี่ครั้งกี่หนก็กลับมาคืนดีกันเสมอ ในโลกนี้ มีแต่คนคู่นี้เท่านั้นที่เชื่อและเคารพยกย่องอีกฝ่ายอย่างจริงใจ การเดินทางทำให้ทั้งสองผูกพันและเปลี่ยนแปลงตัวตนไปเนื่องจากได้มารู้จักกัน โดยเฉพาะซานโช่ที่เปลี่ยนแปลงไปมาก

เมื่อเริ่มเดินทาง ซานโช่ไม่ชอบการวิวาทและจะไม่มีวันตีรันฟันแทงกับใครเป็นอันขาด ถึงขนาดออกปากไม่ว่าวันนี้หรือวันหน้า เขาจะให้อภัยไม่ว่าใครจะทำอะไร แต่แล้วอุดมคติของดอนกิโฆเต้มีอิทธิพลกับซานโช่ อย่างที่เขาเองอาจไม่รู้ตัว

นิยายเรื่องนี้ล้อเลียนนิยายอัศวินตลอดเรื่อง ตั้งแต่สังขารของดอนกิโฆเต้ ม้าเฉื่อยผอมแห้ง และอัศวินสำรองผู้ไม่อาจเก็บปากไว้นิ่ง ๆ ได้ คณะเดินทางนี้น่าจะแปลกปลอมห่างไกลจากความเป็นอัศวินล้ำเลิศ แต่ทุกสิ่งทุกอย่างกลับสมบูรณ์พร้อมได้จากอาการเสียจริตของดอนกิโฆเต้ ด้วยความวิปลาสนั้นย่อม “ทรงพลังเหนือเหตุแลผลทั้งปวง”

เซร์บันเตส ผู้เขียนดอนกิโฆเต้ เสียดสีล้อเลียนนิยายอัศวิน ซึ่งเป็นที่นิยมอ่านกันแพร่หลายในศตวรรษ ๑๖ เอาไว้ไม่น้อย เช่นขาดความสมจริง เหล่าอัศวินดูจะไม่เคยกินอาหารหรือหลับนอน ไม่เคยต้องพกเงินหรือใช้เงิน มีความบังเอิญและความเป็นไปไม่ได้จำนวนมาก ถึงแม้เซร์บันเตสจะวิพากษ์วิจารณ์นิยายอัศวินเอาไว้ขำขันเจ็บแสบ แต่เขาบอกอัศจรรย์ของการอ่านหนังสือเหล่านี้ไว้เช่นกัน ว่าเป็นเรื่องบันเทิงเหลือหลายเพียงใด เป็นเรื่องราวเปี่ยมมนต์เสน่ห์ที่พาคนอ่านไปยังโลกแห่งจินตนาการและความฝัน ที่ที่เราเชื่อจริงจังว่าทุกสิ่งนั้นเป็นไปได้

อย่างที่เราเคยเชื่อเมื่อครั้งหนึ่งนานมาแล้ว

คนรักหนังสือน่าจะประทับใจ ดอนกิโฆเต้ อย่างยิ่ง เริ่มตั้งแต่การบรรยายความบ้าหนังสือของดอนกิโฆเต้ในหน้าแรก ๆ จะมีใครเล่าที่รักการอ่านจนเป็นบ้าได้อย่างเขา ในเล่มยังพูดถึงหนังสือได้น่าอ่านหลายตอน เช่นการตัดสินประชุมเพลิงหนังสือที่มีอารมณ์ขันมืดมนสุดขีด มีบทล้อเลียนเช่นว่า “โรคกวีเป็นโรคติดต่อที่รักษาไม่หาย”

และขออย่าได้พลาดนิทานของซานโช่ ที่เก๋ไก๋และทันสมัยอย่างน่าทึ่ง

ดอนกิโฆเต้ ตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อเซร์บันเตสอายุ ๕๗ ปี ในตอนนั้นเซร์บันเตสมีผลงานเขียน รวมทั้งบทละครและบทกวีบ้างแล้ว นวนิยายเล่มล่าสุดของเขาก่อน ดอนกิโฆเต้ ตีพิมพ์เมื่อ ๒๐ ปีก่อนหน้านั้นโดยพิมพ์เพียง ๒ ครั้ง ดอนกิโฆเต้ สร้างชื่อเสียงให้เซร์บันเตสเป็นครั้งแรก และเป็นหนังสือที่ประสบความสำเร็จมากตั้งแต่เริ่มขาย ภายในปีแรกมีการพิมพ์ซ้ำ ๕-๖ ครั้ง เซร์บันเตสทุ่มเทช่วงสุดท้ายของชีวิตไปกับการเขียน ปรับปรุง และตรวจแก้งาน ดอนกิโฆเต้ ภาคสองออกตามมาก่อนผู้เขียนเสียชีวิตเพียงปีเดียว

บัดนี้ ดอนกิโฆเต้ มีให้อ่านในฉบับภาษาไทยแล้ว

กษัตริย์และพระราชินีแห่งราชอาณาจักรสเปน พร้อมด้วยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ งานเปิดตัวหนังสือ ดอนกิโฆเต้ ฉบับแปลไทยเมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่สยามสมาคม สมเด็จพระราชาธิบดี ฆวน การ์ลอส ที่ ๑ ทรงมีพระราชดำรัสตอนหนึ่งว่า

"สเปนไม่มีทูตวัฒนธรรมคนใดจะดีไปกว่า มิเกล เด เซร์บันเตส และไม่มีสาส์นแนะนำใดจะยอดเยี่ยมไปกว่า ดอนกิโฆเต้ แห่งลามันช่า ผลงานอมตะของเขา"

ดอนกิโฆเต้ ฉบับแปลไทยมีภาพประกอบงดงามโดย กุสตาฟ ดอเร่ หน้าปกเป็นปกเดียวกับฉบับพิมพ์ครั้งแรกของสเปน

อยากชวนให้อ่านหนังสือเล่มนี้ หากยังไม่มีใครเคยบอกคุณ โปรดรู้ว่า ดอนกิโฆเต้ อ่านสนุก เป็นเรื่องตลกมาก ๆ อ่านแล้วมีความสุขเบิกบานแจ่มใส อุดมคติในเล่มเป็นเรื่องสูงส่งและดีงาม

ฮาโรลด์ บลูม ผู้รู้ด้านวรรณกรรมชาวอเมริกันเขียนไว้ว่า

"มีบางส่วนในตัวเราซึ่งเราจะยังไม่รู้จักดี จนกว่าจะได้ไปรู้จักดอนกิโฆเต้และซานโช่ ปันซ่า อยากชวนให้ไปพบบางส่วนเสี้ยวของตัวคุณเองในหนังสือเพลินใจเล่มนี้"

เฟย์ คอลัมน์ คนกับหนังสือ นิตยสารสารคดี (เมษายน พ.ศ. ๒๕๔๙)

วิธีการชำระเงิน

ธนาคารออมสิน สาขากรมการลงสุล ออมทรัพย์

ติดต่อเรา

0659356588

สถิติร้านค้า

หน้าที่เข้าชม3,145,039 ครั้ง
ผู้ชมทั้งหมด1,793,469 ครั้ง
เปิดร้าน8 พ.ค. 2557
ร้านค้าอัพเดท22 ต.ค. 2568

หมวดหมู่สินค้า

ระบบสมาชิก

รายการสั่งซื้อของฉัน
เข้าสู่ระบบด้วย
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก

ยังไม่มีบัญชีเทพ สร้างบัญชีใหม่ ไม่มีค่าใช้จ่าย
สมัครสมาชิก (ฟรี)
รายการสั่งซื้อของฉัน
ข้อมูลร้านค้านี้
ร้าน10000tipBOOK
10000tipBOOK
10000tipbook แห่งนี้ก็เป็นร้านจำหน่ายหนังสือทั้งมือหนึ่งและมือสอง (ส่วนมากจะหนักไปทางมือหนึ่งครับตอนนี้) ซึ่งเจ้าของร้านก็ไม่ใช่ใคร ก็คือ "หมื่นทิพ" คนที่ชอบขีดๆ เขียนๆ เรื่องหนังและหนังสือนั่นเอง โดยที่ทุกท่านสามารถแวะเข้าไปทำความรู้จักกับผมได้ตามเว็บไซต์ต่อไปนี้นะครับ facebook.com/10000tip อีกแห่งคือเฟซบุ๊คของร้านหนังสือแห่งนี้แนะนำว่าให้ลองแวะไปทำความรู้จักตามที่เหล่านี้ก่อนเพื่อความสบายใจยามจะสั่งสินค้านะครับ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกท่านจะได้พบเจอหนังสือที่ต้องการ และพึงพอใจในบริการจากใจในเว็บของเรานะครับ ขอบคุณครับ
เบอร์โทร : 0659356588
อีเมล : anochawang@gmail.com
ส่งข้อความติดต่อร้าน
เกี่ยวกับร้านค้านี้
สินค้าที่ดูล่าสุด
ดูสินค้าทั้งหมดในร้าน
สินค้าที่ดูล่าสุด
บันทึกเป็นร้านโปรด
Join เป็นสมาชิกร้าน
แชร์หน้านี้
แชร์หน้านี้

TOP เลื่อนขึ้นบนสุด
พูดคุย-สอบถาม