(DVD) Koyaanisqatsi (1982) / Powaqqatsi (1988) (Boxset 2 Discs)

(DVD) Koyaanisqatsi (1982) / Powaqqatsi (1988) (Boxset 2 Discs)
(DVD) Koyaanisqatsi (1982) / Powaqqatsi (1988) (Boxset 2 Discs)(DVD) Koyaanisqatsi (1982) / Powaqqatsi (1988) (Boxset 2 Discs)
หมวดหมู่ ขายแล้ว (DVD)
ราคาปกติ 399.00 บาท
ลดเหลือ 259.00 บาท
สภาพ สินค้าใหม่
ลงสินค้า 3 ม.ค. 2559
อัพเดทล่าสุด 15 ก.พ. 2561
ขออภัย สินค้าหมด
บัตรประชาชน
บุ๊คแบ๊งค์
คุ้มครองโดย LnwPay

Koyaanisqatsi (1982) โคย่านิสคัทสึ
Powaqqatsi (1988)
โพว่าคัทสึ
ประเภทแผ่น: DVD
แนวภาพยนตร์: สารคดีที่ไร้คำบรรยาย มีเพียงเสียงดนตรีประกอบ (Documentary, Music)
รับชมตัวอย่างหนัง (Trailer) ได้ ที่ด้านล่างครับ

+++ เรื่องย่อ +++

นี่คือหนังชุดสารคดีที่ผม (หมื่นทิพ) ขอยกย่องว่ายอดเยี่ยม ทรงพลัง และทรงคุณค่าที่สุดเป็นอันดับต้นๆ ของโลกภาพยนตร์

Koyaanisqatsi คือหนังสารคดีที่ไร้ภาษาเสียงสำเนียงพูด มีเพียงภาพมาเรียงร้อยต่อกัน แล้วก็มีดนตรีเล่นคลอประกอบตั้งแต่ต้นจนจบ ซึ่งสำหรับบางท่านแล้วนี่คงถือเป็นหนังนอกสายตา แต่สำหรับคอสารคดีและคอหนังที่ชอบอะไรแปลกใหม่ ชอบความสร้างสรรค์ หรือแม้แต่คนที่อยากเรียนรู้การทำหนัง ควรจะหาโอกาสชมสักครั้ง

จริงครับที่หนังไร้ภาษาสื่อสาร ไร้คำจำนรรจาถ่ายทอดความคิดผู้สร้างมาสู่ผู้ชม แต่ถ้าจะบอกว่าหนังไร้ทิศทางก็คงไม่ใช่ครับ เพราะการร้อยเรียงภาพต่างๆ นั้นทำได้อย่างน่าติดตาม ซึ่งภาพทั้งหลายในเรื่องก็ถ่ายทำโดย Ron Fricke ส่วนหน้าที่การเรียงร้อยเล่าเรื่องก็เป็นฝีมือของผู้กำกับ Godfrey Reggio

อยากจะบอกว่า ภาพที่ผมเห็นและการร้อยเรียงที่ผมได้ดูนั้น มันช่างเปี่ยมความหมาย มันกระตุ้นให้เราเกิดความคิดบางอย่าง มันทำให้เราได้เห็นหลายสิ่งที่เราไม่เคยได้สัมผัส ได้ลองพิจารณาในแง่มุมบางส่วนของโลกที่ถือว่าเร้นลับสำหรับเรา มันทำให้เราตื่นตาเพราะยังมีภาพอันแสนวิจิตรของธรรมชาติอีกหลายภาพเหลือเกินที่คนส่วนใหญ๋ไม่มีโอกาสจะมองเห็น

ไหนจะดนตรีอันทรงพลังของ Philip Glass ที่สอดรับกับอารมณ์แห่งภาพที่ได้รับการร้อยเรียงนั้น ระหว่างที่ผมดูก็ยอมรับเลยครับว่าเกิดอารมณ์ความรู้สึกประหนึ่งกำลังดูหนังสักเรื่อง หนังที่มีการเกริ่นนำ เล่าเรื่อง เร้าอารมณ์ จากจุดกำเนิดหนึ่งนำเราไปสู่ผลลัพธ์หนึ่ง จากธรรมชาตินำเราไปสู่เทคโนโลยี จากการสร้างสรรค์นำไปสู่การทำลาย และจากการทำลายก็นำไปสู่การสร้างสรรค์ วัฏจักรหลายประการเกิดและดับ ดับและเกิดตรงหน้าของเรา สรรพสิ่งที่ผมรู้สึกนั้นก็รู้สึกได้ผ่านการจ้องมองภาพที่รวบรวมมาจากวิถีแห่งโลก มาจากความเป็นไปบนโลกกลมๆ ใบนี้

ยอมรับเลยครับว่าในบางฉากบางขณะผมจ้องมองภาพแล้วค่อยๆ ลุกยืนขึ้นโดยไม่รู้ตัว... ราวกับโดนภาพและดนตรีดึงดูดให้กลายเป็นเนื้อเดียวกับมัน

แมัหนังเรื่องนี้จะมีการใช้ดนตรีเร่งเร้าและบอกเล่าเรื่องราวที่คนทำอยากนำเสนอบอกกล่าว แต่ Reggio ก็เคยบอกไว้ว่าเขาทำหนังสารคดีเรื่องนี้ขึ้นมาเพื่อปลุกเร้าและเปิดประสบการณ์ให้กับผู้ชม มากกว่าจะเป็นหนังที่เสนอความคิดหรือข้อมูล กล่าวคือหน้าที่ของ Reggio คือสานต่อและนำเสนอในสิ่งที่เขานึกออก แต่ผู้ชมดูแล้วคิดยังไง ชอบหรือไม่ ได้อะไรกลับไปบ้าง ผู้สร้างก็ปล่อยให้เรามีอิสระในการคิดต่อยอดกันตามสบาย จะมองว่านี่คือหนังวิพากษ์เทคโนโลยีก็ได้ มองว่าเป็นหนังรักษ์ธรรมชาติก็ได้ "หรือจะมองว่ามันเป็นหนังขยะชัดๆ ก็ได้ครับ ไม่ว่ากัน" ประโยคนี้ Reggio เคยให้สัมภาษณ์เอาไว้

ในความเห็นของ Reggio นั้น การที่เขาไม่ใส่บทบรรยายใดๆ ลงไปไม่ใช่เพราะเขาไม่เห็นคุณค่าของภาษา แต่เพราะเขารู้สึกว่า ภาษาใดในโลกก็ตาม ไม่อาจอธิบายความเป็นจริง ความเป็นไป หรือธรรมชาติของโลกที่เราอยู่ได้แบบชัดถ้อย เขาเลยเปิดโอกาสให้คนดูใช้ภาพที่เห็นสื่อสารโดยตรงไปยังสมอง แล้วจากนั้นก็ค่อยตรองกันเอาเองว่าภาพที่เห็นนำไปสู่ความคิดอะไร

ซึ่งความคิดที่เราได้มานั้น มันก็จะสะท้อนตัวหนังและสะท้อนตัวเราไปในคราวเดียวกัน

ผมชอบคำหนึ่งที่ Reggio กล่าว เขาบอกว่าภาพสิ่งต่างๆ ในหนังมันคือภาพที่มักจะถูกประกอบอยู่ในฉากหลังของหนังทั่วไป ไม่ว่าจะธรรมชาติ ป่าเขา หนองน้ำมหาสมุทร หรือภาพตึกรามบ้านช่อง ผู้คน แสงไฟ และวัสดุอุปกรณ์อำนวยความสะดวกชนิดต่างๆ ของมนุษย์ ทั้งหมดเรามักเห็นเป็นตัวประกอบใช่ไหมครับ แต่ Reggio มีความตั้งใจจะดันเอา "ฉากหลังที่ใกล้ตัวมนุษย์มาก จนมนุษย์เองอาจมองไม่เห็น" มาเป็นตัวเอก และตัดเอาตัวละครมนุษย์ออกไป ถ้ามีก็เป็นแค่ของประกอบฉากเท่านั้น

ระหว่างดูหนังเรื่องนี้มันเกิดความคิดมากมายเหลือเกินครับ บางอย่างผมก็เคยพูดในรีวิวหนังเรื่องอื่นๆ ไปแล้ว บางอันก็เป็นความคิดแว่บวูบที่โผล่ผึงขึ้นมา ก่อนจะลอยไปไกลดุจโดนเกลียวคลื่นแห่งภาพตรงหน้ามาตีม้วนเอาไป

ส่วน Powaqqatsi  คือบทต่อมาแห่งหนังชุด Qatsi เรื่องราวในภาคนี้ก็นำเสนอในแบบเดิมครับ นำภาพมาร้อยเรียงแล้วใส่เสียงดนตรีลงไป เพียงแต่ธีมหลักที่ใช้เล่าเรื่องจะเปลี่ยนไป จากคราวก่อนเป็นเรื่องธรรมชาติและสรรพสิ่งรอบตัวมนุษย์ มาคราวนี้เป็นการนำเสนอรูปแบบชีวิตต่างๆ ของคนในแต่ละมุมของโลก ไม่ว่าจะคนที่ต้องกรำแดดตากฝน แบกหามของหนัก อยู่อย่างแออัด เรื่อยไปจนถึงคนเมืองที่มีอะไรต่อมิอะไรอำนวยความสะดวกพร้อม

สิ่งที่ผมกล่าวไปข้างต้นก็คือรสชาติความรู้สึกระหว่างดูหนังเรื่องนี้ครับ ดูแล้วก็เปิดใจรับชีวิตหลากรูปแบบของมนุษย์ รู้สึกว่าวิถีชีวิตของคนมีหลายแบบจนเรายากที่จะพิพากษาฟันธงลงไปได้ว่าชีวิตแบบไหนดีที่สุด เพราะดีที่สุดของแต่ละคนไม่เท่ากัน สิ่งแวดล้อมแต่ละประเทศไม่ตรงกัน ดังนั้นดีของไทยอาจไม่ใช่ดีของอียิปต์ก็ได้

แต่ความจริงประการหนึ่งก็คือคนส่วนมากมักเอา "ชีวิตที่ดี" ของเราไปสรุปเปรียบเทียบกับชีวิตอื่นๆ แล้วก็สรุปว่าชีวิตเราดีกว่า ชีวิตเขาแย่กว่า ตามด้วยการตั้งคำถามว่าทำไมคนเหล่านั้นถึงไม่พยายามเปลี่ยนวิถีชีวิตมาตามแบบของเรา ครั้นคนอื่นพยายามบอกว่า "สำหรับเขานั้น แค่นี้ก็ดีแล้ว สุขแล้ว" คนอีกพวกก็ยังอาจคิดว่านายคนนั้นช่างไม่รู้อะไรเสียเลย ช่างมีความคิดที่ตีบตันไม่เปิดกว้างจริงๆ

ฟังแล้วก็อดคิดไม่ได้ ว่าตกลงใครกันที่ไม่รู้อะไร และใครเข้าอีหรอบตีบตันไม่เปิดกว้างมากกว่ากัน

ขอสรุปอีกครั้งว่า นี่คือสุดยอดหนังสารคดีที่ยอดเยี่ยม จนผมยกให้เป็นหนังสารคดีที่ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง

 

=== รายละเอียด ===

ภาษา (Language)
English 5.1

บรรยาย (Subtitles)
English, Bahasa, Cantonese, Korean, Mandarin, Portuguese, Spanish, Thai

จำนวนแผ่น (Disc Total): 2 แผ่น
สร้างโดย (Studio): MGM
จัดจำหน่ายโดย (Copyright): Catalyst (แคททาลิสท์)

Special Features
- Essence Of Life' Featurette With Director And Composer
- Impact Of Progress' Featurette With Director And Composer
- Original Theatrical Trailers

ราคาปก 399 บาท
ราคาขาย 259 บาท

กำกับโดย Godfrey Reggio
ความยาว 86 นาที / 99 นาที

++ Storyline ++

In 1972, Godfrey Reggio, of the Institute for Regional Education (IRE), was working on a media campaign in Albuquerque, New Mexico, which was sponsored by the American Civil Liberties Union (ACLU). The campaign involved invasions of privacy and the use of technology to control behavior. As opposed to making public service announcements, which Reggio felt "had no visibility," advertising spots were purchased for television, radio, newspapers, and billboards. Over thirty billboards were used for the campaign, and one design featured a close-up of the human eye, which Reggio described as a "horrifying image."To produce the television commercials the IRE-hired cinematographer Ron Fricke, who worked on the project for two years. The television advertisements aired during prime time programming and became so popular that viewers would call the television stations to learn when the next advertisement would be aired. Godfrey described the two-year campaign as "extraordinarily successful," and as a result, Ritalin (methylphenidate) was eliminated as a behavior-modifying drug in many New Mexico school districts. But after the campaign ended, the ACLU eventually withdrew its sponsorship, and the IRE unsuccessfully attempted to raise millions of dollars at a fundraiser in Washington, D.C. The institute only had $40,000 left in their budget, and Reggio was unsure how to use the small amount of funds. Fricke insisted to Reggio that the money could be used to produce a film, which led to the production of Koyaanisqatsi.

Koyaanisqatsi also known as Koyaanisqatsi: Life Out of Balance, is a 1982 American experimental film directed by Godfrey Reggio with music composed by Philip Glass and cinematography by Ron Fricke.

The film consists primarily of slow motion and time-lapse footage of cities and many natural landscapes across the United States. The visual tone poem contains neither dialogue nor a vocalized narration: its tone is set by the juxtaposition of images and music. Reggio explained the lack of dialogue by stating "it's not for lack of love of the language that these films have no words. It's because, from my point of view, our language is in a state of vast humiliation. It no longer describes the world in which we live."In the Hopi language, the word Koyaanisqatsi means "unbalanced life". The film is the first in the Qatsi trilogy of films: it is followed by Powaqqatsi (1988) and Naqoyqatsi (2002). The trilogy depicts different aspects of the relationship between humans, nature, and technology. Koyaanisqatsi is the best known of the trilogy and is considered a cult film. However, because of copyright issues, the film was out of print for most of the 1990s.

Powaqqatsi , or Powaqqatsi: Life in Transformation, is a 1988 American documentary film directed by Godfrey Reggio and the sequel to Reggio's experimental 1982 film, Koyaanisqatsi. It is the second film in the Qatsi trilogy.

Powaqqatsi is a Hopi word meaning "parasitic way of life" or "life in transition". While Koyaanisqatsi focused on modern life in industrial countries, Powaqqatsi, which similarly has no dialogue, focuses more on the conflict in third world countries between traditional ways of life and the new ways of life introduced with industrialization. As with Koyaanisqatsi and the third and final part of the 'Qatsi' trilogy, Naqoyqatsi, the film is strongly related to its soundtrack, written by Philip Glass. Here, human voices (especially children's and mainly from South America and Africa) appear more than in Koyaanisqatsi, in harmony with the film's message and images.

เครดิต Wikipedia
P-190

วิธีการชำระเงิน

ธนาคารออมสิน สาขากรมการลงสุล ออมทรัพย์

ติดต่อเรา

0659356588

สถิติร้านค้า

หน้าที่เข้าชม3,135,756 ครั้ง
ผู้ชมทั้งหมด1,784,186 ครั้ง
เปิดร้าน8 พ.ค. 2557
ร้านค้าอัพเดท5 ก.ย. 2568

หมวดหมู่สินค้า

ระบบสมาชิก

รายการสั่งซื้อของฉัน
เข้าสู่ระบบด้วย
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก

ยังไม่มีบัญชีเทพ สร้างบัญชีใหม่ ไม่มีค่าใช้จ่าย
สมัครสมาชิก (ฟรี)
รายการสั่งซื้อของฉัน
ข้อมูลร้านค้านี้
ร้าน10000tipBOOK
10000tipBOOK
10000tipbook แห่งนี้ก็เป็นร้านจำหน่ายหนังสือทั้งมือหนึ่งและมือสอง (ส่วนมากจะหนักไปทางมือหนึ่งครับตอนนี้) ซึ่งเจ้าของร้านก็ไม่ใช่ใคร ก็คือ "หมื่นทิพ" คนที่ชอบขีดๆ เขียนๆ เรื่องหนังและหนังสือนั่นเอง โดยที่ทุกท่านสามารถแวะเข้าไปทำความรู้จักกับผมได้ตามเว็บไซต์ต่อไปนี้นะครับ facebook.com/10000tip อีกแห่งคือเฟซบุ๊คของร้านหนังสือแห่งนี้แนะนำว่าให้ลองแวะไปทำความรู้จักตามที่เหล่านี้ก่อนเพื่อความสบายใจยามจะสั่งสินค้านะครับ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกท่านจะได้พบเจอหนังสือที่ต้องการ และพึงพอใจในบริการจากใจในเว็บของเรานะครับ ขอบคุณครับ
เบอร์โทร : 0659356588
อีเมล : anochawang@gmail.com
ส่งข้อความติดต่อร้าน
เกี่ยวกับร้านค้านี้
สินค้าที่ดูล่าสุด
ดูสินค้าทั้งหมดในร้าน
สินค้าที่ดูล่าสุด
บันทึกเป็นร้านโปรด
Join เป็นสมาชิกร้าน
แชร์หน้านี้
แชร์หน้านี้

TOP เลื่อนขึ้นบนสุด
พูดคุย-สอบถาม