มาทิลดา นักอ่านสุดวิเศษ
Matilda
ผลงานของ โรอัลด์ ดาห์ล (Roald Dahl)
แปลโดย สาลินี คำฉันท์
สำนักพิมพ์ ผีเสื้อ
จำนวนหน้า 288 หน้า
หนังสือใหม่มือหนึ่งสภาพดี
ราคาปกติ 285 บาท ลดเหลือ 257 บาท
(ราคานี้ยังไม่รวมค่าจัดส่ง)
+++ รายละเอียดหนังสือ +++ [mr06]
“มาทิลดา” หนังสือวรรณกรรมเยาวชนแปล ซึ่งสร้างความฮือฮามาแล้วด้วยลีลาการเขียนของ โรอัลด์ ดาห์ล ที่ค่อยๆสอดแทรกทัศนคติของตนเองลงไปในแต่ละคำ แต่ละความรู้สึก และการแปลอย่างประณีตของ สาลินี คำฉันท์ ที่ได้เรียงร้อยถ้อยคำออกมาได้อย่างสวยงาม และเข้าใจได้ง่าย
“มาทิลดา” เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ เด็กหญิงอัจฉริยะที่อยู่มาวันหนึ่งเธอก็พบว่าเธอมีพลังจิต จากนั้นการแก้แค้นของเธอต่อพวกผู้ใหญ่ตัวแสบก็เริ่มขึ้น
วรรณกรรมเยาวชนเรื่องนี้ ผู้เขียนมิได้มุ่งเน้นแสดงความผิดปกติ ความผิด และความชั่วของผู้ใหญ่เพียงด้านเดียว ทว่า ได้แสดงทัศนะที่มีต่อการ “อ่านหนังสือ” ไว้เด่นชัดเช่นเดียวกับเรื่องอื่นๆ ผู้เขียนพยายามบอกผู้อ่านว่า การอ่านหนังสือเป็นสิ่ง “วิเศษ”เพียงใด และแนะนำผู้อ่านให้เลือกอ่านหนังสือหลายเล่มที่เป็นอมตะด้วยกลวิธีการเขียนอันแนบเนียน ไม่ยัดเยียด
18 ปีแล้ว ที่ “มาทิลดา” ได้โลดแล่นอยู่ในวงการวรรณกรรม รวมถึงยังเป็นหนังสือเยาวชนแปลอีกเล่มที่มีคุณภาพ และจินตนาการสูงส่ง ทำให้วันนี้ มาทิลดา ยังคงอยู่ในใจของนักอ่านทุกวัย ไม่ใช่แค่เพียงเด็กเท่านั้น ที่ชื่นชอบ
หนังสือเล่มนี้มีรูปแบบที่พิเศษคือ มีมุมที่โค้ง เพื่อให้ง่ายต่อการเก็บรักษาในชั้นวางหนังสือ และปกที่นูน สวยงาม เพิ่มความเด่นให้กับหน้าปกของเล่ม รวมถึงกระดาษที่ใช้เป็นกระดาษลดแสง ที่จะไม่ทำร้ายดวงตาของผู้อ่านที่อ่านในระยะเวลานานๆ
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++
สร้างเป็นภาพยนตร์ฉายทั่วโลก
ความอัจฉริยะของมาทิลดาสร้างความแตกตื่นและตื่นเต้นให้แก่ผู้ใหญ่ที่เห็นคุณค่าและมีความคิดอย่างนางเฟ้ลปส๎ บรรณารักษ์ห้องสมุด และครู เจนนิเฟอร์ ฮันนี่ เพราะแม้อายุจะไม่ถึง ๕ ขวบ มาทิลดาก็เริ่มเดิน เตาะแตะไปอ่านหนังสือที่ห้องสมุดเอง แถมหนังสือที่อ่านก็ยังเป็นหนังสือที่ฅนตัวโตๆ บางฅนอ่านไม่เข้าใจด้วย
แต่ความช่างคิด ช่างจำ ชอบอ่านหนังสือของมาทิลดาจะมีประโยชน์อะไร ถ้าเธอต้องอยู่ท่ามกลางพ่อผู้มีนิสัยฉลาดแกมโกง บูชาเงินเป็นพระเจ้า แม่ที่ชื่นชอบการเล่นบิงโกและดูทีวีมากกว่าดูแลลูกๆ และพี่ชายซึ่งพร้อมจะเชื่อฟัง ศรัทธาในเล่ห์เหลี่ยมของพ่อ
จึงเป็นธรรมดาอยู่เองที่มาทิลดาจะเป็นผู้รองรับอารมณ์บูดๆ ของพ่อเป็นประจำ จนคิดแก้แค้นด้วยกลอุบายแสบๆ คันๆ ผู้ใหญ่บางฅนอาจมองว่าบางส่วนของหนังสือเล่มนี้ทำให้เด็กๆ แก้ปัญหาด้วยความรุนแรง แต่โรอัลด์ ดาห์ลก็แสดงให้เห็นว่า การกลั่นแกล้งพ่อของมาทิลดานั้น ทำให้พ่อของเธอมีพฤติกรรมดีขึ้นเพียงใด รวมทั้งชี้ให้เห็นว่าความเฉลียวฉลาดรอบรู้ของเด็กๆ นั้น จะเป็นผลดีแก่ตัวเด็กเองก็ต่อเมื่อเด็กได้อยู่ในความดูแล ของผู้ใหญ่ที่มีเหตุผลและเห็นคุณค่าในตัวเขาเท่านั้น
เรื่องราวที่เปี่ยมด้วยแง่คิด ถูกถ่ายทอดผ่านภาษาที่เรียบง่ายสละสลวย และอารมณ์ขันที่มากมายเหลือเฟือ แม้พฤติกรรมบางอย่างของครูเขาวัว ครูใหญ่จอมโหดจะเกินจริงไปบ้าง แต่ก็เพื่อย้ำความดีกับความไม่ดีให้เด่นชัดยิ่งขึ้น นับเป็นหนึ่งในหนังสือไม่กี่เล่มที่ได้ประโยชน์ไปพร้อมๆ กับความสนุก
จากคอลัมน์ : ชวนน้องอ่านหนังสือ โดย พี่นักอ่าน
หนังสือพิมพ์มติชน วันที่ ๒๗ เมษายน พ.ศ. ๒๕๔๐
+++++++++++++++++++++++++++++++++++
โรอัลด์ ดาห์ล เปิดเรื่องนี้ด้วยคำกล่าวว่าพ่อแม่ส่วนใหญ่นิยมชมชื่นลูกของตนเอง ไม่ว่าลูกเป็นเด็กน่าชังสักเพียงไร พ่อแม่จะคิดว่าลูกเป็นเด็กน่าอัศจรรย์ใจเสมอ
ผู้เล่าเรื่องบอกจากใจว่าถ้าเขาเป็นครูแล้ว จะตอกกลับพ่อแม่ชนิดนี้ให้สาสมโดยเขียนลงสมุดพกนักเรียน เช่นว่า
"เด็กชายแม็กซิมิเลี่ยน บุตรของท่าน เป็นนักเรียนที่ใช้ไม่ได้ ผมหวังว่าท่านคงจะมีธุรกิจในครอบครัว เมื่อเขาออกจากโรงเรียน จะได้ให้เขาทำธุรกิจนั้น เพราะผมมั่นใจเหลือเกินว่าเขาจะไม่มีทางหางานที่อื่นได้แน่"
แต่ยังมีพ่อแม่อีกประเภทหนึ่ง ที่มีลูกแสนประเสริฐแต่กลับไม่ให้ความสนใจ ไม่รู้คุณค่า ดังเช่นพ่อแม่ของ มาทิลดา ซึ่งเป็นเด็กพิเศษน่าอัศจรรย์ ทว่าพ่อแม่กลับมองเด็กหญิงเป็นเพียงสะเก็ดแผล "สะเก็ดแผลก็คือ--- สิ่งที่คุณจำต้องทนมีไว้จนกว่าจะถึงเวลาที่คุณลอกมันออกและสลัดทิ้งไป"
มาทิลดาพิเศษอย่างไรหรือ เธอเป็นเด็กฉลาด เรียนรู้เร็ว อ่านหนังสือออกเองตั้งแต่อายุสามขวบ มาทิลดารักการอ่านเป็นหนักหนา เมื่อพ่อแม่ไม่ซื้อหนังสือให้เธอจึงไปห้องสมุดเอง เมื่อมาทิลดาอายุสี่ขวบกว่า เธอเริ่มอ่านหนังสือ Great Expectations ของดิคเก้นส์
สำหรับมาทิลดา "หนังสือนำเธอท่องเที่ยวไปยังโลกใหม่ๆ ชักนำเธอให้รู้จักผู้คนที่น่าอัศจรรย์ … เธอได้ท่องเที่ยวไปทั่วโลก ขณะนั่งอยู่ภายในห้องเล็กๆ ของเธอเอง"
พ่อของมาทิลดาชอบก่นด่าลูกสาวด้วยถ้อยคำใจร้ายเสมอๆ เช่นบอกว่าเธอโง่เง่าเซ่อซ่า ครอบครัวมาทิลดากินข้าวเย็นในห้องนั่งเล่น โดยเสพอาหารสำเร็จรูปไปพลางดูโทรทัศน์ไปพลาง บรรยากาศช่างดูหลอกหลอนเสียดสีเช่นเดียวกับฉากครอบครัวในหนัง American Beauty ครั้งหนึ่งมาทิลดาขออนุญาตบิดาไปกินอาหารในห้องอาหาร เพื่อจะได้อ่านหนังสือไปด้วย แต่พ่อไม่ยอมโดยบอกว่า "เวลากินอาหารค่ำเป็นเวลาที่ทุกคนในครอบครัวอยู่พร้อมหน้ากัน" นับเป็นตลกร้ายกาจยิ่งนัก
มาทิลดาคิดแก้เผ็ดพ่อแม่ตนเองด้วยวิธีต่างๆ นานา จนกระทั่งมาทิลดาเข้าโรงเรียนและได้พบผู้ร้ายคนใหม่ เป็นครูใหญ่ชื่อครูเขาวัว
ครูใหญ่หญิงคนนี้เป็นตัวละครน่าประทับใจที่สุดคนหนี่งในโลกวรรณกรรม ด้วยมีบุคลิกเฉพาะตัวที่ตราตรึงใจ คุณครูเขาวัวมีร่างยักษ์ เหมือนอสุรกายที่ดุร้าย เหมือนแรดกำลังโมโห ยามปรากฏตัวนั้น "ดูคล้ายหมาล่าเนื้อซึ่งค่อนข้างบ้าและกระหายเลือด" ยามเจรจาหล่อน "กระชากเสียงเหมือนเห่า"
ครูเขาวัวเคยเป็นนักขว้างฆ้อนทีมชาติในกีฬาโอลิมปิกจึงแข็งแรงมาก มีกล้ามเนื้อเป็นมัดๆ หล่อนมีรังสีแห่งการคุกคามที่แผ่มาแต่ไกล ยามเดินเหินนั้น "ถ้าบังเอิญมีกลุ่มเด็กขวางทาง หล่อนก็จะตะลุยฝ่าราวกับรถถัง เด็กเล็กๆ จะกระเด็นไปทั้งซ้ายทั้งขวา" หนังสือเปรียบยามเธอเดินเหมือนโมเสสที่ทะเลแดงต้องแหวกออกเพื่อเธอ
บรรยากาศน่าสะพรึงกลัวของครูเขาวัวยิ่งน่าพรั่นพรึงมากขึ้น ด้วยเธอเกลียดชังเด็กเล็กๆ โดยมองเด็กเป็นสิ่งโสโครกน่าขยะแขยง นับเป็นเรื่องลึกลับว่าเธอมาเป็นครูได้อย่างไร โรงเรียนในอุดมคติของครูเขาวัวคือ "โรงเรียนที่ไม่มีเด็กเลย" วาจาที่เธอเรียกขานเด็กๆ นั้นสร้างสรรค์มาก อ่านได้เพลินใจตลอดเรื่อง เช่น ไอ้หัวขี้เท่อ ไอ้ฝีหัวช้างเหม็นเน่า ไอ้เหงือกรำมะนาด ไอ้หูด
เมื่อมาทิลดาพบกับครูเขาวัว ได้เกิดปาฏิหาริย์ขึ้นสามครั้ง น่าติดตามว่าอัศจรรย์เหล่านั้นคืออะไรหนอ
หนังสือเล่มนี้บอกความสัมพันธ์ระหว่างพ่อแม่-ลูก ครู-นักเรียน และผู้ใหญ่-เด็ก ในรูปแบบที่ไม่เห็นกันบ่อยนักในหนังสือเด็ก เขาเล่าถึงพ่อแม่น่าชัง คุณครูที่โหดร้ายผิดมนุษย์ เด็กๆ ที่แข็งขืนและหาวิธีต่อต้านผู้ใหญ่ เรื่องนี้มีความมืดมนและอารมณ์ขันร้ายกาจจำนวนมากเช่นเดียวกับหลายเรื่องของดาห์ล
แง่มุมมืดมนในเรื่องของดาห์ลที่มักบอกว่าผู้ใหญ่และครูเป็นศัตรูของเด็ก ทำให้ผู้ใหญ่จำนวนมากไม่ชอบหนังสือของเขา ทว่าวรรณกรรมเยาวชนคลาสสิกจำนวนมากล้วนมีความมืดมนอยู่ด้วยเสมอมิใช่หรือ ลองนึกถึงจินตนาการแสนแปลกใน อลิซในแดนมหัศจรรย์ เรื่องของความตายและการจากพรากน่าใจหายใน แมงมุมเพื่อนรัก และพ่อมดมหัศจรรย์แห่งอ๊อซที่บอกให้โดโรธีออกฆ่าแม่มด
แม้ผู้เขียนจะแสดงความไม่น่าปรารถนาของสังคมเอาไว้ในเรื่อง แต่เขาแสดงสิ่งน่าอัศจรรย์ใจไว้เช่นกัน เช่นความสำคัญและความเบิกบานของการอ่าน ถึงจินตนาการของเด็กเล็กๆ ที่เป็นเรื่องมหัศจรรย์กว่าสิ่งใด
มาทิลดาเป็นเด็กพิเศษ แต่ความพิเศษของเรื่องนี้คือเป็นเรื่องบันเทิงแสนเพลิดเพลินใจ
มาทิลดาบอกไว้ตอนหนึ่งว่า "เด็กๆ ไม่คร่ำเคร่งเหมือนผู้ใหญ่ แล้วเด็กๆ ก็ชอบหัวเราะด้วย"
หนังสือเล่มนี้จะทำให้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่หัวเราะ
* เฟย์ จากคอลัมน์ IMAGE Must Read
นิตยสาร IMAGE ฉบับเดือนมกราคม ๒๕๕๐
