รู้เห็นเป็นตาย (The Silent Girl) (Rizzoli & Isles Series #9)

รู้เห็นเป็นตาย
The Silent Girl
ชุด Rizzoli & Isles Series #9

ผู้เขียน: TESS GERRITSEN (เทสส์ เกอร์ริตเซ่น)
ผู้แปล: อาสยา ฐกัดกุล
สำนักพิมพ์: น้ำพุ Nampu
หนังสือมือหนึ่งสภาพดี

ราคาปกติ 250 บาท ลดเหลือ 213 บาท
(ราคานี้ยังไม่รวมค่าจัดส่ง)


+++ รายละเอียดหนังสือ +++ [mr01]

ซีรีส์สืบสวนสอบสวนที่ทำยอดขายรวมกันกว่า 30 ล้านเล่ม
ขายลิขสิทธิ์ไปแล้วกว่า 40 ภาษาทั่วโลก

ค่ำคืนหนึ่งกลางเมืองบอสตัน กลุ่มนักท่องเที่ยวกำลังเดินชมย่านผีสิงในไชน่าทาวน์ เมื่อเจอ “มือปลอม” ตกอยู่หน้าร้านอาหารจีนที่เกิดเหตุสังหารหมู่เมื่อ 19 ปีก่อน คนทั้งกลุ่มก็หัวเราะลั่น เพราะคิดว่าเป็นการจัดฉากของหัวหน้าทัวร์ แต่เสียงหัวเราะกลับเปลี่ยนเป็นเสียงหวีดร้องเมื่อเห็นเลือดสด ๆ ทะลักออกมา มันคือมือคนที่เพิ่งถูกตัดมาหมาด ๆ

นักสืบเจน ริซโซลี เข้าตรวจสอบและพบร่างหญิงสาวนิรนามบนดาดฟ้าของร้าน นอกจากมือขวาที่ถูกตัดกระเด็นหายไป ลำคอยังถูกฟันจนเกือบขาด แม้จะมีบาดแผลฉกรรจ์ แต่กลับไร้ร่องรอยการต่อสู้ราวกับถูกจู่โจมโดยไม่ทันรู้ตัว

เบาะแสในที่เกิดเหตุทำให้ริซโซลีตัดสินใจรื้อคดีสังหารหมู่เมื่อ 19 ปีก่อนขึ้นมา และได้พบกับความไม่ชอบมาพากลบางอย่าง ลูกสาวของเหยื่อสองรายหายตัวไปอย่างเป็นปริศนา คนที่เกี่ยวข้องกับคดีทยอยตายไปทีละคน และทุก ๆ ปีครอบครัวเหยื่อทุกรายจะได้รับจดหมายลึกลับที่มีข้อความเดียวกัน...

ไม่อยากรู้ความจริงเหรอ...ฉันรู้ว่าเรื่องจริงเป็นยังไง...

ดูเหมือนความลับอำมหิตที่ถูกเก็บงำมาเกือบสองทศวรรษจะได้เวลาเผยความสยดสยองแล้ว ยิ่งสืบเข้าใกล้ความจริง ริซโซลีก็ยิ่งพบว่าเหตุนองเลือดนั้นอาจจะยังไม่เคยได้ปิดฉาก ใครก็ตามที่ “รู้เห็น” จะกลายเป็นศพต่อไป...ไม่เว้นแม้แต่ตัวเธอเอง!

“ไม่ใช่หนังสือแนะนำแต่เป็นหนังสือที่ต้องอ่าน” - Lee Child

+++++++++++++++++++++++++++

1. ซีรีส์สืบสวนสอบสวนที่ทำยอดขายรวมกันกว่า 30 ล้านเล่มทั่วโลก ตีพิมพ์ไปแล้วกว่า 40 ภาษา ได้รับความนิยมอย่างสูงในประเทศไทยและมีผู้อ่านติดตามภาคต่ออย่างมากมาย

2. เดินเรื่องได้ตื่นเต้นเร้าใจ สยดสยอง สมจริง โหดแบบไม่ปรานีคนอ่าน ลุ้นระทึกตั้งแต่หน้าแรกจนหน้าสุดท้าย หักมุมผูกปมได้น่าติดตามจนวางไม่ลง

3. Tess Gerritsen ผู้เขียนหนังสือเล่มนี้ ได้รับการยกย่องจากสื่อระดับโลกและนักเขียนชื่อดังมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Harlan Coben, Lee Child, Michael Connelly, Los Angeles Times