มูซาชิ ฉบับท่าพระจันทร์
Musashi: The Sword of Mindfulness
ผู้เขียน: สุวินัย ภรณวลัย
สำนักพิมพ์: Openbooks
หนังสือมือหนึ่งสภาพค่อนข้างดี แต่ขอบปกกับสันอาจมีรอยช้ำเล็กน้อย เรียนตามตรงว่าหนังสือเริ่มเหลือน้อยครับ สภาพก็จะเริ่มมีตำหนิเล็กๆ น้อยๆ แต่ทางร้านได้พยายามคัดเล่มที่มีตำหนิน้อยที่สุดเท่าที่จะหาได้มาจำหน่ายครับ
ราคาปก 550 บาท ลดเหลือ 495 บาท
(ราคานี้ยังไม่รวมค่าส่ง)
+++ รายละเอียดหนังสือ +++ [mr04]
มิยาโมโต้ มูซาชิ คือจอมดาบอัจฉริยะ เขาผ่านการต่อสู้ที่ต้องเอาชีวิตเป็นเดิมพันกว่า 60 ครั้งและไม่เคยแพ้แม้แต่เพียงครั้งเดียว
บทเรียนสำคัญที่สุดที่คนรุ่นหลังสามารถเรียนรู้จากมูซาชิได้ คือ ‘ความสามารถในการรบชนะ’ ซึ่งแน่นอน มิใช่สิ่งที่จะได้มาเพราะโชคช่วยดังที่มูซาชิกล่าวว่า “จงเคารพบูชาพระเจ้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ แต่จงอย่าขอร้องอ้อนวอนให้ท่านช่วย”
ในวิถีดาบ ความบังเอิญไม่เคยดำรงอยู่ ยุคสมัยที่มูซาชิมีชีวิต เป็นยุคที่บ้านเมืองวุ่นวายโกลาหลเป็นอย่างยิ่ง การมีชีวิตรอดในห้วงเวลาเช่นนั้นเป็นกระบวนการเดียวกันกับการฝึกฝนตนเองให้ฉลาดและเข้มแข็ง มูซาชิฝึกฝนตนเองจนขึ้นสู่จุดสูงสุดของวิชาดาบ ก่อนจะนำไปประยุกต์ใช้กับศิลปะแขนงอื่นๆ ทั้งการวาดภาพ แกะสลัก และจัดดอกไม้
ใช่หรือไม่ว่า ปัจจุบัน พวกเราล้วนมีชีวิตอยู่ในยุค‘อภิมหาโกลาหล’ เช่นนั้น ไฉนเราจึงไม่หันมาศึกษาวิถีของคนที่เคยผ่านยุคสมัยโกลาหลมาอย่างองอาจ หฤหรรษ์ สง่างาม และเป็นอิสระ ดังที่มูซาชิกล่าวไว้ใน คัมภีร์ห้าห่วง ว่า “จงแสวงหาวิธีที่จะเปล่งพลังและศักยภาพของตัวเองออกมาจนถึงขีดสูงสุด จงอย่ากลัวการใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยว การฝึกฝนตนเองนั้นไม่มีที่สิ้นสุด และจงต่อสู้เมื่อคิดว่าจะชนะ”
ในสงครามใหญ่ สมรภูมิจึงมิใช่สนามรบเบื้องหน้า หากทว่าเป็นสนามในจิตใจของผู้คนที่ยากจะหยั่งถึง การชนะสงคราม นอกจากเพลงดาบและไหวพริบแล้ว บ่อยครั้งก็เป็นเรื่องของการหยั่งใจผู้คน ทั้งฝ่ายตนและฝ่ายตรงข้าม ซึ่งไม่น่าแปลกที่นอกจากเพลงดาบแล้วซามูไรจำต้องฝึกฝนจิตใจอย่างเคร่งครัด ดาบและใจต้องผสานกันอย่างกลมกลืนจนกลายเป็นหนึ่งเดียว เฉกเช่นซามูไรที่ชื่อ มิยาโมโต้ มูซาชิ
==========================================
ดาบหนึ่งเล่ม ปากกาหนึ่งด้าม มูซาชิใช้ ‘ดาบ’ของเขาบันทึกประวัติการแสวงหา ‘อภิมรรค’ตลอดทั้งชีวิตของเขา ขณะที่ผมเลือกใช้ ‘ปากกา’ซึ่งเปรียบประดุจ ‘กระบี่ปัญญา’ในยุคปัจจุบัน บันทึกประวัติการแสวงหา ‘อภิมรรค’ของตัวผมมาโดยตลอดเช่นกัน
ดาบเล่มหนึ่ง ปากกาด้ามหนึ่ง บางที ‘ดาบ’ของมูซาชิอาจไม่มีความหมายมากไปกว่าเข็มหมุดเล่มหนึ่ง เมื่อเทียบกับความกว้างใหญ่ไพศาลของมหาสมุทร บางที ‘ปากกา’ของสุวินัยอาจไม่มีความหมายมากไปกว่าก้อนกรวดเม็ดเล็กๆ เมื่อเทียบกับความสูงใหญ่ของเทือกเขาบรรพต มันเป็นเพียงดาบเล่มหนึ่ง มันเป็นแค่ปากกาด้ามหนึ่ง แต่ ‘ดาบ’ของมูซาชิก็เป็นสัญลักษณ์หรือรูปลักษณ์แห่งจิตใจของตัวเขาที่ปรากฏออกมาให้ผู้อื่นได้แลเห็น และ ‘ปากกา’ของผมก็เป็นสัญลักษณ์หรือรูปลักษณ์แห่งจิตใจของผมที่ปรากฏออกมาให้ผู้อื่นได้แลเห็นเช่นกัน
ผมมีความภูมิใจที่ในช่วงชีวิตหนึ่งของผม ผมมีโอกาสใช้ ‘ปากกา’ของผมผนึกแนบแน่นเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับ ‘ดาบ’ของมูซาชิ ภายใต้แรงบันดาลใจจากผลงานอมตะของคุณโยชิคาว่า เอญิ จนกระทั่งปรากฏออกมาเป็นหนังสือเล่มนี้ และผมก็หวังว่าหนังสือเล่มนี้คงเป็นหนังสืออีกเล่มหนึ่งที่จะเป็นเพื่อนร่วมทางกับ ‘พวกเรา’ในการเดินทางแสวงหา ‘อภิมรรค’ร่วมกันตลอดไป
มิยาโมโต้ มูซาชิ “1584-1645” คือจอมดาบอัจฉริยะผู้หนึ่งโดยแท้ ในชีวิตของมูซาชิ เขาผ่านการต่อสู้ที่ต้องเอาชีวิตเป็นเดิมพันกว่าหกสิบครั้ง และไม่เคยแพ้แม้แต่ครั้งเดียว มิหนำซ้ำคู่ต่อสู้แต่ละคนของเขาล้วนไม่ใช่ย่อย ไม่ว่าจะพวกสำนักโยชิโอกะ หรือ ซาซากิ โคยิโร่ บุคคลเหล่านี้ล้วนเป็นคู่มือที่หากมูซาชิพลาดแม้เพียงก้าวเดียว เขาต่างหากที่จะเป็นฝ่ายตาย เหตุที่มูซาชิสามารถเอาชนะรอดตายมาได้ คงเป็นเพราะเขามี ‘ความสามารถที่จะรบชนะ’นั่นเอง ‘ความสามารถที่จะรบชนะ’นี้แหละคือ ‘บทเรียน’ที่มีความหมายที่สุดที่คนรุ่นหลังสามารถเรียนรู้ได้จากมูซาชิ ไม่ว่าคนผู้นั้นต้องการจะ ‘ชนะ’อะไรก็ตาม แต่ที่แน่ๆ ก็คือ ‘ความสามารถที่จะรบชนะ’นั้นมิได้ได้มาเพราะ ‘โชคช่วย’อย่างแน่นอน มูซาชิเป็นบุคคลประเภทที่เราสามารถกล่าวได้อย่างเต็มปากเต็มคำว่าเขาไม่เชื่อในเรื่องของดวงหรือโชคชะตา ดังแนวทางชีวิตที่เขาบัญญัติไว้สิบเก้าประการในชื่อ ‘วิถีที่เด็ดเดี่ยวแม้โดดเดี่ยว’ซึ่งข้อที่สิบแปดบัญญัติไว้ว่า “จงเคารพบูชาพระเจ้าสิ่งศักสิทธิ์ แต่จงอย่าขอร้องอ้อนวอนให้ท่านช่วย!!!
==========================================
มิยาโมโต้ มูซาชิ เริ่มต้นชีวิตในนวนิยายด้วยฉากใหญ่ในสนามรบ และปิดฉากจบวัยหนุ่มในสนามประลอง ระหว่างทางแห่งการแสวงหาล้วนเต็มไปด้วยเรื่องราวให้ครุ่นคิด เช่นเดียวกับชีวิตของเราทุกคน จากมูซาชิฉบับท่าพระจันทร์ ที่จัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์คบไฟ ครั้งแรกเมื่อปี 2538 มูซาชิฉบับครบรอบ 19 ปี อันเป็นเลขมงคลที่อาจารย์สุวินัยยึดถือนั้น ทางสำนักพิมพ์ได้ทำการแก้ไขสำนวนบางส่วน เช่นสรรพนามแทนตน จาก ผม เป็น ข้า รวมทั้งปรับเปลี่ยนรูปแบบการจัดหน้า ขนาดของอักษรและการจัดวางภาพประกอบ เพื่อให้เกิดอรรถรสแห่งการอ่านดุจการอ่านคัมภีร์โบราณใต้แสงเทียน
การได้ย้อนกลับมาอ่านหนังสือเล่มเดิมหลังเวลาผ่านไปเกือบ 20 ปี นอกจากจะช่วยให้แต่ละท่านมีโอกาสทบทวนชีวิตที่ล่วงผ่านแล้ว ภูมิปัญญาแห่งมูซาชิที่อาจารย์สุวินัยภรณวลัยถ่ายทอดฝากไว้ให้แผ่นดินไทยนั้น อาจเป็นเฉกเช่นกัลยาณมิตรที่ช่วยประคองชีวิตผู้อ่านแต่ละท่านให้ผ่านช่วงเวลาแห่งความยากลำบากในเบื้องปัจจุบันหรือเบื้องหน้าได้
"หนึ่งในนวนิยายที่ดีที่สุดที่ผมเคยได้อ่านมา คุ้มค่า คุ้มเวลา เป็นเสาหลักที่ใช้ในการสร้างซีรีส์ปัญญาทั้ง FUTURE, PAST และ ONE MILLION มีบทเรียนนับร้อยหมื่นอยู่ในหนังสือเล่มนี้ และน่าจะมีสักหนึ่งที่แทงทะลุถึงใจคุณ"
— ภิญโญ ไตรสุริยธรรมา
