
ปีนี้เป็นปีที่ทุกคนบอกว่า จะต้องเหนื่อยมากขึ้นกว่าปีที่ผ่านๆมา บางคนก็บอกว่าจะค่อยๆ ดีขึ้นในช่วงปลาย ....ความจริงคือคงไม่มีใครรู้อย่างแท้จริง หรือทำนายทายแม่นอย่างจับวาง ทุกอย่างมาจากการประมวล วิเคราะห์ข้อมูลและโอกาสความน่าจะเป็น
แต่สิ่งหนึ่งที่เป็นจริงแน่นอนคือ "หากคุณไม่ขยับตัวก็เท่ากับคุณกำลังถอยหลัง" คำถามต่อมาคือจะต้องทำยังไงหละ? ในฐานะผู้ที่ผ่านงานพัฒนาบุลคากรมาก่อน ขอแนะนำให้คุณเริ่มจากการพัฒนาตนเองทั้งทางกาย ทางความคิด และจิตใจ
กาย -- รักษาร่างกายให้แข็งแรงกว่าที่เคย เพื่อให้คุณเตรียมพร้อมรับทุกสถานการณ์ที่อาจผ่านเข้ามา ยกตัวอย่างตัวเราเองเป็นแม่บ้าน ทำงานไปด้วย เลี้ยงลูกวัยซนไปด้วย เวลาออกกำลังกายแบบจริงจังอาจไม่มาก เน้นการทำงานบ้านเป็นการออกกำลังกาย กินอาหารที่ดีขึ้น ใส่ใจการกินมากขึ้น สุขภาพก็จะดีขึ้น
ความคิด -- เปิดรับและมองโลกให้กว้างขึ้นกว่าที่เคย การทำตนเป็นผู้ไม่รู้ แสร้งโง่บ้างเป็นเรื่องดี เพื่อทำให้เราคิดวิเคราะห์มากขึ้น เลิกเชื่อสิ่งที่เขาว่าตามกันมา ออกค้นหาความจริง สวมวิญญาณนักขุดค้น ใช้รอยหยักในสมองที่พ่อแม่ช่วยสร้างมา ... การอ่านหนังสือช่วยได้คะ ไปไหนมาไหนติดหนังสือใส่กระเป๋าสักเล่มคงไม่หนักมากเท่ามือถือหรือของใช้ที่เราพกอยู่ทุกวันนี้ ^_^
จิตใจ -- สิ่งที่เจอมันหนัก เครียดได้ กลุ้มได้ไม่ว่ากัน เราก็เป็นกันทั้งนั้น เพียงแค่ว่าใครจะรับหรือจัดการได้ดีกว่ากัน หาเวลาไปผ่อนคลาย เจอเพื่อน เลี้ยงนกเลี้ยงปลา ฟังเพลง เข้าสปา กินข้าวกับเดอะแก๊งค์ คุยกับใครสักคนที่คุณวางใจผ่อนใจเมื่ออยู่กับเขา (ไม่ผิดนักหากคุณจะคุยกับใครสักคน มันไม่ได้เป็นการเอาความทุกข์ไปใส่คนอื่นตราบเท่าที่คุณไม่สร้างปัญหาให้เขา) ...การหาแรงบันดาลใจจากหนังสือสักเล่มเป็นวิธีดีเช่นกัน
ไม่ว่าคุณจะเจอปัญหามากมายแค่ไหน
จำได้ว่าคุณไม่เคยอยู่คนเดียวจริงๆหรอก
หมื่นทิพบุ๊ค - 10000tipbook