ดอกไม้ในความคิดผู้เขียน:
เจริญขวัญสำนักพิมพ์:
amicusหนังสือมือหนึ่งสภาพดี
ราคาปก 200 บาท ลดเหลือ 180 บาท(ราคานี้ยังไม่รวมค่าจัดส่ง)+++ รายละเอียดหนังสือ +++
งานเขียนทั้งหมดในหนังสือเล่มนี้
คืองานเขียนเมื่อครั้งช่วงวัยอันสดใสคือประมาณ 26-27 ปี
ซึ่งการมองโลกยังสดสวยอยู่มาก
ทุกชิ้นเป็นงานเขียนประจำสัปดาห์
ในคอลัมน์ “ดอกไม้ในความคิด”
ที่ตีพิมพ์ในนิตยสารบางกอกทูเดย์ยุคปี 2539
เมื่อทำงานประจำตำแหน่งผู้สื่อข่าวอาวุโส
ในหนังสือพิมพ์รายวัน “วัฎจักร”
ที่มีการเปิดเซกชั่นใหม่อีก 12 หน้า
จึงได้รับการอนุมัติให้เขียนคอลัมน์นี้ต่อในชื่อเดิม
และเขียนต่อเนื่องมาจนกระทั่งลาออก
ไปเรียนต่อปริญญาโทที่มหิดลในปี พ.ศ.2541
.
ผู้หญิงวัย 27 คนหนึ่งผ่านรสหวานขมของชีวิต
บางครั้งดื่มหยาดน้ำตาเพื่อเยียวยาตัวเอง
บางเวลาแย้มผลิเหมือนดอกไม้
ทุกประสบการณ์ทั้งสุขทุกข์ผิดหวังหรือสมหวัง
หล่อหลอมออกมาเป็นงานเขียน
แม้บางแง่มุมอาจจะไม่ได้มีมิติอันลุ่มลึกซับซ้อนนัก
แต่นี่คือสายตาที่มองโลกในช่วงเวลานั้น
.
ต่อมาสำนักพิมพ์ดอกหญ้ามาขอต้นฉบับไปพิมพ์
แต่ระหว่างดำเนินการก็แตกหน่อออกมา
เป็นสำนักพิมพ์ดับเบิ้ลนายน์ในปี พ.ศ.2544
จากนั้นทางสำนักพิมพ์ก็ส่งเข้าประกวดเซเว่นบุ้คอวอร์ดปีแรก
และได้รางวัลชมเชยสาขาปรัชญา
สร้างความประหลาดใจแก่หญิงสาววัย 27 คนนั้นอย่างยิ่ง
.
หลังจากรับรางวัลแล้ว
หญิงสาวในอดีตคนนั้นก็เดินทางมาอเมริกา
แล้วเลิกเขียนหนังสืออย่างสิ้นเชิงเป็นเวลาสิบปี
จนกลับมาเขียนใหม่อีกครั้งเมื่อไม่นานมานี้
.
ในฐานะคนเขียน
เราไม่อาจรู้เลยว่างานเขียนส่งผลอย่างไรต่อหัวใจคนอ่าน
กาลเวลาล่วงผ่านจนสิบกว่าปีให้หลัง
วันหนึ่งได้รับข้อความส่งผ่านโลกโซเชียล
จากหญิงสาวแปลกหน้า 2 คน
.
คนแรกเล่าว่า หากไม่ได้หนังสือเล่มนี้
ชีวิตคงจมอยู่ในความทุกข์ไม่สิ้นสุด
คุณพ่อเลยซื้อหนังสือเล่มนี้ให้อ่าน
ทำให้ชีวิตเปลี่ยนไป
ยอมรับความทุกข์ได้ง่ายขึ้น
ในวันนี้เธอมีครอบครัวที่น่ารัก
และมีความสุขในชีวิตที่สุด
.
ส่วนอีกคนหนึ่งถามนำมาก่อนว่า
ฉันเป็นคนเขียนหนังสือเล่มนี้เมื่อ 16 ปีก่อนใช่ไหม
จากนั้นก็เล่าว่าครั้งหนึ่งในชีวิตเกือบฆ่าตัวตาย
แต่เมื่อได้อ่านข้อความบางตอนในหนังสือเล่มนี้
ทำให้เปลี่ยนใจ
ล้มเลิกความคิดในการฆ่าตัวตายโดยสิ้นเชิง
หันมาสู้ชีวิตเปลี่ยนงานใหม่จนชีวิตดีขึ้นเรื่อยๆ
และประสบความสำเร็จด้านการทำงาน
.
ในฐานะคนเขียน
และคือหญิงสาววัย 27 ปีเมื่อหลายสิบปีก่อน
ฉันดีใจมากที่งานเขียนเล็กๆ เล่มหนึ่ง
พอจะมีส่วนช่วยเหลือเยียวยาเพื่อนมนุษย์ได้บ้าง
การที่สำนักพิมพ์ Amicus แจ้งมาว่า
อยากจะพิมพ์หนังสือเล่มนี้เป็นหนที่สอง
จึงเป็นเรื่องน่ายินดีอย่างยิ่ง