คู่มือข้างหมอน จิตวิทยา ความรักผู้เขียน:
เฉินซู่เจวียนผู้แปล:
สุธิมา กฤตย์ธนวัตสำนักพิมพ์:
วาราหนังสือมือหนึ่งสภาพดี
ราคาปก 370 บาท ลดเหลือ 333 บาท(ราคานี้ยังไม่รวมค่าจัดส่ง)+++ รายละเอียดหนังสือ +++ [mr01]
ความเจ็บปวดเป็นสิ่งดี
คงต้องมีคนหลายคนที่คัดค้านคำพูดนี้อย่างแน่นอนและพวกเขาก็จะบอกว่า ‘คุณไม่ได้เป็นฉัน คุณไม่มีวันเข้าใจหรอก ความเจ็บปวดเป็นเรื่องดีงั้นหรือ?’
มีคำกล่าวที่ว่า ‘ความเจ็บปวดทำให้คนเรารู้จักคิด’ ความเจ็บปวดเป็นสัญญาณที่สวรรค์กำลังบอกกับเราว่า ถึงเวลาที่ต้อง เปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่างแล้วนะ
การแต่งงานทำให้คนเรารู้สึกเจ็บปวดยิ่งกว่า ตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้ามาอยู่ ในความสัมพันธ์ น้ำตาก็เป็นวัตถุดิบ หลักของความสุขนั้น สิ่งที่เรียกว่า วิกฤตการณ์ก็คือ “วิกฤติ+โอกาส” ความขัดแย้งและวิกฤตการณ์ในชีวิตแต่งงานที่เกิดกับเราไม่ใช่แค่ความเจ็บปวดเพียงสิ่งเดียว แต่ยังมีโอกาสที่เรา จะได้เปลี่ยนแปลงอีกด้วย
ดังนั้นคนที่มีชีวิตคู่หรือคนที่เจ็บปวดจากการแต่งงานจะมองเห็นปัญหาของตัวเองและหาวิธีการปรับตัวได้อย่างเหมาะสมเมื่ออ่านหนังสือเล่มนี้
ความเจ็บปวดทำให้เรามองตัวเองได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น
ผู้เข้ารับคำปรึกษาหลายๆคนถามฉันว่า ฉันกลับไปเป็นคนเก่าได้ไหม กลับไปหาตัวเองคนเก่าให้เจอ?
ฉันตอบว่า เรากลับไปหาอดีตไม่ได้หรอกค่ะ สิ่งที่เราทำได้ในเวลานี้ก็คือ “มองตัวเองให้ชัดเจนขึ้นจากความทุกข์ที่เป็นอยู่ เพื่อที่จะได้เติบโตขึ้นและเป็นตัวของตัวเองที่สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น”
ประสบการณ์ที่ผ่านไปแล้วก็เหมือนกับหินก้อนเล็กๆ ที่โยนลงไปในทะเลสาบหัวใจของเราที่ดูภายนอกเหมือนว่าสงบนิ่ง ระลอกคลื่นที่กระเพื่อมขึ้นมาไม่ใช่ปัญหาของก้อนหิน แต่เป็นความรู้สึกและความเจ็บปวดภายในใจที่เราไม่เคยสังเกตเห็นเองต่างหาก เพราะฉะนั้นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ บางเรื่องก็อาจทำให้เราสูญเสียการควบคุมทางอารมณ์ได้ อารมณ์ส่วนใหญ่ของเราไม่ได้ขึ้นอยู่กับเรื่องที่เกิดขึ้นในขณะนั้นแต่เพราะอารมณ์ในอดีตถูกกระตุ้นขึ้นมา
ชีวิตรักและการแต่งงานก็เป็นเช่นนี้
คนเรามีชีวิตสองครั้ง
ครั้งแรกคือตอนที่เราเกิดออกมาจากท้องแม่ เราสร้างความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับพ่อแม่ เริ่มแสวงหาตัวตน เสาะแสวงหาโลกภายนอก
ครั้งที่สองคือตอนมีความรักและตอนแต่งงาน เราสร้างสัมพันธ์ใกล้ชิดกับคนที่เรารัก ความสัมพันธ์ชนิดนี้ เราจะซ้ำรอยรูปแบบความสัมพันธ์ที่เรามีกับพ่อแม่ในวัยเด็ก ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นยามที่มีความรักหรือชีวิตการแต่งงาน แท้จริงแล้วเป็นการซ้ำรูปแบบชีวิตวัยเด็ก ถ้าไม่ซ้ำความสุขในวัยเด็ก ก็พยายามชดเชยความทุกข์ในวัยเด็กนั่นเอง
พ่อแม่หลายคู่ไม่ใช่พ่อแม่ที่สมบูรณ์แบบ การอบรมเลี้ยงดูบุตรที่ไม่ถูกวิธีของพวกเขานั้น มักจะทำร้ายลูกๆ ทำให้เด็กขาดความรักและความมั่นคงทางจิตใจ ลูกๆ ไม่อาจเปลี่ยนแปลงพ่อแม่ได้ หลังจากเติบโตขึ้นพวกเขาจึงแสวงหาสิ่งที่ขาดหายไปในช่วงวัยเด็ก โดยแสวงหาเอาจากความสัมพันธ์ในการแต่งงานและจากคนรักไม่หยุดหย่อน ทว่าอีกฝ่ายย่อมไม่มีทางที่จะสนองตอบความต้องการทางใจอันมากมายนั้นของเราได้ ดังนั้นจึงเป็นเหตุให้เกิดความขัดแย้งต่างๆ ขึ้น หรือไม่เราก็อาจจะตามหาคนที่เหมือนกับพ่อแม่ของเราและพยายามทุ่มความรักให้กับอีกฝ่ายอย่างเต็มที่ เมื่อฝ่ายนั้นตอบรับรัก ตัวเราก็จะกลายเป็นเด็กอีกครั้งหนึ่งและทำในสิ่งที่อยากจะทำเมื่อครั้งในวัยเด็ก ที่ไม่เคยมีโอกาสได้ทำ ไม่ว่าจะเป็นการดื้อรั้น เอาแต่ใจ เอะอะโวยวายแบบไร้เหตุผล สุดท้ายคนรักของคุณก็ทนแบกรับไม่ไหวและเลือกที่จะเดินจากไป กลายเป็นว่าความเชื่อที่มีอยู่ในใจลึกๆ นั้น ได้รับการยืนยันอีกครั้งว่า “ดูสิ ฉันไม่คู่ควรให้ใครมารัก สุดท้ายฉันก็ต้องถูกทอดทิ้ง”
เพราะเหตุนี้ความทุกข์ที่เกิดขึ้นในชีวิตคู่จึงสามารถช่วยให้เรารู้จักตัวเองได้ดียิ่งขึ้น ยอมรับที่มีพ่อแม่แบบนี้ มีวัยเด็กแบบนี้ แล้วปล่อยวางความคิดที่จะเปลี่ยนแปลงและค่อยๆ กลายเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น
การนอกใจเป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญของความทุกข์ที่เกิดขึ้นในชีวิตแต่งงาน ไม่ว่าจะคนนอกใจหรือว่ามือที่สามล้วนแต่ไม่มีทางจะได้รับความสุขอย่างที่ตนเองปราถนาจากความสัมพันธ์ในครั้งนี้ หลังจากที่คนนอกใจเสพสุขกันได้เพียงแค่ชั่วครู่ชั่วยาม สิ่งที่ได้รับตอบแทนกลับมานั้นก็คือ การทะเลาะเบาะแว้งและความไม่เชื่อใจกันระหว่างสามีภรรยาในระยะยาว จนกระทั่งความรักและความรู้สึกดีๆที่มีให้กันนั้น เหือดหายไปจนเกือบหมด ถ้าไม่เลือกที่จะฝืนรั้งชีวิตคู่ที่เปราะบางไว้เพื่อลูกก็มักเลือกที่จะหย่าขาดจากกันไป
แต่ใช่ว่าจุดจบของการนอกใจจะเลวร้ายเสมอไป ถ้าเราเดินจากมาจากสถานการณ์นั้นได้ ลองทบทวนตัวเอง คนรัก และชีวิตคู่ดูใหม่อีกครั้ง หากลบฝุ่นผงที่เกาะชีวิตคู่อยู่ออกไปก็จะมองเห็นชัดขึ้นว่าคนรักสำคัญกับหัวใจของเรามากเพียงใด เช่นนี้แล้ว เหตุการณ์นอกใจก็จะเหมือนกับบททดสอบที่ทำให้เราได้เข้าใจความรู้สึกและความต้องการที่แท้จริงของตนเอง รู้จักทะนุถนอมสิ่งที่ครอบครองอยู่ตรงหน้าให้ดียิ่งขึ้น เพราะคนที่เราแต่งงานด้วยไม่ใช่ เขาหรือเธอเพียงคนเดียว แต่ยังรวมไปถึงพ่อแม่ ญาติพี่น้อง หรือแม้แต่ปู่ย่าตาทวดอีกมากมายที่อยู่เบื้องหลังของอีกฝ่าย คนแต่ละคนต่างก็มีพื้นฐานทางครอบครัวที่แตกต่างกันไป มีวิถีการดำเนินชีวิต ทัศนคติ รูปแบบความคิด พฤติกรรมต่างๆ ในแบบของตัวเอง ด้วยเหตุนี้ เมื่อเราแต่งงานกับใครสักคน อันที่จริงแล้วก็เท่ากับว่าเราแต่งงานกับครอบครัว วงศ์ตระกูล ความเคยชิน และทัศนคติของคนๆ นั้นไปด้วย หากเราเข้าใจและยอมรับตัวตนที่แท้จริงของคนๆ นั้นได้ เช่นนี้จึงจะถือว่ารักอีกฝ่ายได้จากใจจริง หลังจากผ่านการปรับตัวก็ย่อมค้นพบวิธีและรูปแบบในการคบหากันได้อย่างเหมาะสมที่สุด
ทว่าสิ่งที่จะลืมไปไม่ได้เลยก็คือ นอกจากตัวคู่รักของคุณแล้ว เบื้องหลังของเขายังมีคนอื่นๆ อยู่อีกด้วย และเราต้องรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับคนเหล่านั้นไว้ให้ได้ ความสัมพันธ์ที่จัดการยากที่สุดก็คือความสัมพันธ์ระหว่างแม่สามีกับลูกสะใภ้ ประเด็นนี้ยังคงเป็นปริศนาที่ยากจะแก้ไขที่ตกทอดมาตลอดหลายพันปีในสังคมจีน หนังสือเล่มนี้จะช่วยให้คุณไขรหัสความลับความสัมพันธ์ระหว่างแม่สามีกับลูกสะใภ้และหาวิธีแก้ไขปัญหาโดยให้ทั้งสองฝ่ายได้รับชัยชนะทั้งคู่
หนังสือเล่มนี้จะช่วยเปิดมุมมองใหม่ๆ ให้กับคุณ ทำให้คุณเกิดพุทธิปัญญา ขุดลึกถึงสาเหตุของปัญหาที่เกิดขึ้นในชีวิตคู่ เสนอวิธีรับมืออย่างมีเหตุมีผล ขอเพียงแค่มองออกและเข้าใจ เช่นนี้ก็จะช่วยให้ป้องกันและรับมือกับปัญหาได้ ฉันขอกระซิบอะไรสักนิดนะคะว่า “คนเราต้องรู้จักรักตัวเองเสียก่อนถึงจะมีพลังไปรักคนอื่น ฝึกฝนตัวเองให้ได้เสียก่อนถึงจะสร้างชีวิตแต่งงานขึ้นมาได้ จงขอบคุณความเจ็บปวดเพราะสิ่งนี้คอยย้ำเตือนให้เราเปลี่ยนแปลงและช่วยให้เราเติบโตขึ้น”